(เพิ่มเติม) รองโฆษกฯ เผยรัฐเลื่อนประชุมสุดยอดอาเซียนเป็นต.ค.เหตุคู่เจรจา-ผู้นำไม่พร้อม

ข่าวทั่วไป Wednesday May 13, 2009 16:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รมว.ต่างประเทศระบุว่ารัฐบาลจะเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและคู่เจรจาออกไปจากที่กำหนดในกลางเดือนมิ.ย.52 ออกไปเป็นเดือน ต.ค.นี้ เนื่องจากผู้ประเทศคู่เจรจาและผู้นำอาเซียนบางประเทศติดภารกิจสำคัญไม่สะดวกที่จะเดินทางมาร่วมประชุม เช่นกรณีประเทศอินโดนีเซียก็กำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่

นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวหลังประชุมร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปฮ่องกงและการเตรียมความพร้อมในการประชุมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจาต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากบางประเทศคู่เจรจาติดภารกิจในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ และบางประเทศกำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่ภายในประเทศ

รายงานข่าว เปิดเผยว่า ผู้นำอย่างน้อย 3 ประเทศที่ติดขัดไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ คือ อินโดนีเซีย อินเดีย และนิวซีแลนด์ เพราะกำลังอยู่ในช่วงการเลือกตั้ง

นายกษิต กล่าวว่า ในวันที่ 19 พ.ค.นี้จะมีการประชุมในระดับปลัดกระทรวงต่างประเทศอาเซียน(EAS)ที่จ.ภูเก็ตอีกครั้งก่อนว่าจะมีข้อสรุปร่วมกันอย่างไร แต่เชื่อว่าในช่วงปลายเดือนต.ค.มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะมีการประชุมในช่วงใกล้เคียงกับประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 15 ซึ่งน่าจะมีความเหมาะสม

“ที่ผ่านมามีระดับปลัดกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนก็มีการหารือกันว่าจะมีข้อเสนออย่างไร ก็มีการมองความเป็นไปได้ใน 2 ทางคือ ปลายเดือนก.ค. ซึ่งคิดว่าไม่ค่อยสะดวก และเสนอให้มาจัดในเดือนต.ค.ในช่วงเดียวกับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 15 ซึ่งมีหลายประเทศเห็นด้วยว่าน่าจะเหมาเอาเดือนต.ค.นี้ไปเลย อย่างไรก็ตาม คงต้องรอให้มีการเห็นชอบร่วมกันในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ว่าจะมีข้อเสนอออกมาอย่างไร ถึงจะเป็นข้อสรุป" นายกษิต กล่าว

นายกษิต กล่าวว่า การเลื่อนการประชุม ไม่คิดว่าเสียหาย และไม่เสียหน้า แต่สิ่งที่ทำได้ในระหว่างนี้คือมีข้อตกลงระหว่างประเทศ 2 เรื่องที่ต้องดำเนินการและประกาศออกมา คือ 1.ข้อตกลงระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลียว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณ และ2.ข้อตกลงระหว่างอาเซียนกับจีนทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีน คาดว่าลงนามได้ภายในเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ