นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ(คปร.) สำนักงาน ก.พ.ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังส่วนราชการชี้แจงรายละเอียดมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการปีงบประมาณ 53 ตลอดจนกำหนดการและขั้นตอนในหลักการให้ดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ(โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ 53(1 ต.ค.52)
ทั้งนี้ หากส่วนราชการพิจารณาแล้วเห็นว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมของส่วนราชการ และมีงบประมาณของส่วนราชการรองรับให้พิจารณาดำเนินการได้ โดยให้หน่วยงานจัดทำรายละเอียดข้อเสนอมาตรการเสนอต่อ คปร.พิจารณาภายในวันที่ 15 พ.ค.52
นายปรีชา กล่าว่า กลุ่มเป้าหมายของโครงการคือต้องเป็นข้าราชการที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีอายุปฏิบัติราชการ 25 ปีขึ้นไป(ไม่รวมเวลาทวีคูณ) นับถึงวันก่อนออกจากราชการตามมาตรการฯ(30 ก.ย.52) และจะต้องมีอายุราชการเหลือตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ออกจากราชการ ที่สำคัญต้องไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ ถูกสอบสวนหรือสอบหาข้อเท็จจริงทางวินัย พิจารณาโทษทางวินัย รายงานการลงโทษทางวินัย หรือพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัย หรือเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ในคดีอาญาซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.จะเปิดให้ผู้สมัครเข้าร่วมมาตรการฯ ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการตามมาตรการฯ ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ในระหว่างวันที่ 16-30 มิ.ย.52
"ส่วนราชการที่จะจัดให้มีมาตรการฯ นี้ จะต้องพิจารณาทบทวนบทบาท ภารกิจ วิเคราะห์ และสำรวจอัตรากำลังของส่วนราชการ พร้อมทั้งจัดทำแผนดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังภาคราชการ โดยวัตถุประสงค์ของโครงการฯ นี้ก็คือ เพื่อให้กำลังคนภาครัฐมีขนาดและคุณภาพที่เหมาะสม สอดคล้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลภาครัฐแนวใหม่ และการใช้กำลังคนภาครัฐที่เป็นไปอย่างคุ้มค่า ประหยัด เต็มศักยภาพและได้ประโยชน์สูงสุด" เลขาธิการ ก.พ. กล่าว
นายปรีชา กล่าวต่อว่า สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้เข้าร่วมโครงการฯ นี้จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ สิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 8-15 เท่าของเงินเดือนรวมเงินประจำตำแหน่ง(ถ้ามี)ตามเวลาราชการที่เหลือ(ปี) และสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การยกเว้นภาษีเงินก้อนที่ได้รับตามมาตรการฯ นี้ การยกเว้นภาษีในส่วนของเงินที่ได้รับจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ รวมถึงการยกเว้นไม่ต้องชดใช้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติกับเงินกู้ตามพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2535 โครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ และโครงการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ธอส.-กบข.