H1N1 FLU: สธ.เพิ่มคุมเข้มผู้เดินทางไปญี่ปุ่นเฝ้าระวังหวัดสายพันธุ์ใหม่

ข่าวทั่วไป Monday May 18, 2009 12:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงสาธารณสุข ปรับมาตรการให้ทุกจังหวัดติดตามผู้ที่เดินทางผ่านประเทศญี่ปุ่นอย่างเข้มข้น หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ ภายใน 3 วัน แจ้งแพทย์ทันที เร่งให้ความรู้ประชาชนดูแลตัวเองหากเกิดอาการเจ็บป่วย ทั้งที่บ้าน โรงเรียน และที่ทำงาน รับมือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1

"กรณีที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในประเทศญี่ปุ่น โดยไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศเสี่ยงจึงเป็นสัญญาณเตือนให้ประเทศไทยต้องรับมือเฝ้าระวังเข้มข้นมากขึ้น"นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้ที่เดินทางผ่านสนามบินของญี่ปุ่นก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และการระบาดของโรคนี้มีโอกาสแพร่กระจายไปทั่วโลกเนื่องจากการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางผ่านสนามบินที่ญี่ปุ่น เมื่อเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทยจะมีระบบเฝ้าติดตามไม่ว่าจะอยู่ที่จังหวัดไหนก็ตาม หากมีอาการป่วยไข้ ไอ เจ็บคอ ภายหลังเดินทางเข้ามาระยะ 3 วัน ให้รีบไปพบแพทย์หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที

สำหรับผู้ป่วยโรคนี้จะเริ่มมีอาการหลังได้รับเชื้อไวรัส 1-3 วัน มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ทั่วไป เช่น มีไข้ ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย ซึ่งหากมีอาการไม่รุนแรงจะหายได้เองภายใน 5-7 วันโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่บางรายที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจะมีอาการหายใจเร็ว เหนื่อย หอบ หายใจลำบาก ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ เพื่อเป็นการป้องกันประชาชนควรหลีกเลี่ยงคลุกคลีกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลสวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาการ ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน ใช้ช้อนกลางทุกครั้ง ล้างมือบ่อยๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ

ล่าสุด องค์การอนามัยโลก รายงานว่า มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 39 ประเทศ รวมผู้ป่วยทั้งสิ้น 8.480 ราย เสียชีวิต 72 ราย (เม็กซิโก 66 ราย สหรัฐอเมริกา 4 ราย แคนาดา 1 ราย และคอสตาริกา 1 ราย) และประเทศที่รายงานผู้ป่วยรายแรกในวันนี้ ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย และตุรกี ส่วนไทยคงมีผู้ป่วยยืนยัน 2 รายเท่าเดิม และมีผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวัง 10 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ