ประธานคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข เผยเตรียมทดสอบการดื้อยาของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กับยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ แม้จะพบว่าเชื้อที่ดื้อยาส่วนใหญ่เป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งคาดจะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 1 เดือน
"ในส่วนของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กระทรวงสาธารณสุขจะทำการทบทวนและนำเชื้อทดสอบมาทดสอบกับยาโอเซลทามิเวียร์ เนื่องจากขณะนี้ได้ทำการแยกเชื้อจากผู้ป่วยที่ยืนยัน 2 รายได้แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาทดสอบไม่เกิน 1 เดือน" นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานฯ กล่าวถึงประเด็นที่ระบุว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่ในไทย 70% มีปัญหาดื้อยาโอเซลทามิเวียร์
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เพื่อความไม่ประมาทและความรอบคอบในการใช้ยาตัวนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมชี้แจงแพทย์ผู้ให้การรักษาทั่วประเทศแล้ว 1 ครั้ง และพยายามลดการใช้ยา กำหนดให้ใช้ได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่อยู่ในห้องปฏิบัติการอยู่ในความดูแลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และห้องปฏิบัติการคณะแพทยศาสตร์ 2 แห่ง อยู่ในระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับที่มีความปลอดภัยอย่างมากตามมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับการดูแลเชื้อไข้หวัดนก
สำหรับในประเทศไทยขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ในข่ายเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นเป็น 22 ราย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีต่อระบบการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แสดงว่าประชาชนรู้ข้อมูลและให้ความร่วมมือปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้น โดยหลังจากกลับจากต่างประเทศที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เมื่อมีไข้ก็เดินทางมาพบแพทย์ทันที การที่มีผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวังจำนวนมากขึ้นไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยมีโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดในพื้นที่
ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยต่างชาติอยู่ในข่ายเฝ้าระวัง 3 ราย ประกอบด้วย ชาวสวีเดน 2 ราย และมาจากฮ่องกง 1 ราย โดยชาวสวีเดนอาศัยอยู่ในเมืองไทยเดินทางไปที่อินโดนีเซีย 14 วัน และไปที่มาเลเซียด้วยก่อนเข้าประเทศไทย เมื่อวิเคราะห์ประวัติและเส้นทางเดินทางของชาวสวีเดนรายนี้ไม่น่าห่วง ซึ่งกำลังตรวจสอบตัวอย่างที่ส่งมาจากโรงพยาบาลสมุทรปราการว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ส่วนรายฮ่องกงนั้นจัดเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในระบบตามปกติ