นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เหตุก่อความไม่สงบใน จ.ยะลา ที่มีการวางระเบิดถึง 9 จุดเป็นความพยายามสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อการให้ดูว่าพวกเขายังมีศักยภาพอยู่ ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเฝ้าระวังและหามาตรการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมากขึ้น พร้อมกับเน้นไปที่การพัฒนาและเข้าถึงมวลชนในพื้นที่
"เราไม่ได้มุ่งไปที่การไล่ล่า แต่เราพยายามจะเน้นเรื่องการพัฒนา ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็ไม่มีใครอยากไปให้ความช่วยเหลือหรือร่วมมือกับฝ่ายที่ก่อการ ดังนั้นเป้าหมายของรัฐบาลก็จะเดินหน้าต่อไปในแนวนี้ แต่ขณะเดียวกันจะต้องดูแลมาตรการต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมีมากขึ้น" รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนออกเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายสุเทพ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้จะไปซักซ้อมทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติงาน ทั้งในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้จัดแผนงาน โครงการและงบประมาณสำหรับการเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ต.ค.52 ไว้เรียบร้อย เป็นงบประมาณอย่างเพียงพอในการพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายเพื่อมุ่งไปที่ประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจะต้องดูแลเรื่องการส่งเสริมอาชีพ การศึกษา วัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่โดยทั่วไป
"เรามีเป้าหมายชัดเจนว่าจะต้องทำให้ประชาชนมีรายได้โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีละ 6.4 หมื่นบาท เป็น 1.2 แสนบาท ซึ่งถ้าทำได้อย่างนี้ ก็จะทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจะต้องมีการตรวจสอบอย่างชัดเจนลงไปถึงรายครอบครัว ชุมชน ว่ามีความต้องการอย่างไรบ้าง เราก็จะจัดให้ตรงตามความต้องการนั้นๆ" รองนายกรัฐมนตรี ระบุ
หลังจากลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายสุเทพ จะทำรายงานเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้เรียกประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป เพื่อผลักดันการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เดินหน้าเร็วที่สุด