นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการจัดกิจกรรมประกวดตั้งชื่อลูกแพนด้าน้อยที่เกิดจาก"ช่วงช่วง-หลินฮุ่ย"ว่า ผู้ที่ตั้งชื่อเหมาะสมที่สุดจะได้รับรางวัลเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์อีก 1 คัน โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศเสนอชื่อมายังสวนสัตว์ทั้ง 5 แห่ง
หลังจากนั้นจะมีคณะกรรมการคัดเลือกรอบแรกให้เหลือแค่ 4 ชื่อ ซึ่งเจ้าของชื่อจะได้รับรางวัลเงินสดคนละ 1 แสนบาท พร้อมตั๋วเครื่องบินไป-กลับเพื่อไปดูกิจการเกี่ยวกับการอนุรักษ์หมีแพนด้าที่ประเทศจีน ต่อจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมกันโหวตชื่อที่เหมาะสมที่สุดจาก 4 ชื่อที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก ซึ่งผู้ชนะจะได้รับรางวัลเงินสด 1 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน และของรางวัลอื่นๆ
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หมีแพนด้าเป็นสัตว์ที่ผสมพันธุ์ได้ยาก ดังนั้นจึงถือเป็นความสำเร็จของโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย ซึ่งตนเองต้องการให้เป็นโครงการถาวร องค์การสวนสัตว์คงต้องเดินทางไปเจรจาในเบื้องต้นกับทางการจีนเพื่อขอขยายเวลาให้ครอบครัวหมีแพนด้าอยู่ในประเทศไทยออกไปอีก หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเจรจาในระดับรัฐบาลต่อไป คาดว่าไม่เกินต้นเดือนหน้า
ขณะที่นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูลทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ได้แยกลูกหมีแพนด้าออกมาตรวจสุขภาพแล้วพบว่าแพนด้าน้อยมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ผิวหนังเริ่มปรากฏสีดำชัดเจนขึ้นบริเวณรอบดวงตา หู ขาหน้า และขาหลัง ส่วน"หลินฮุ่ย"มีโอกาสได้กินไผ่ในช่วงที่นำลูกหมีแพนด้าออกมาตรวจสุขภาพ
หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า ความสำเร็จจากการเกิดลูกแพนด้าในประเทศไทยนับเป็นครั้งแรกที่ผิดไปจากธรรมชาติ แต่แพนด้าน้อยกลับมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แสดงว่าน้ำเชื้อของ"ช่วงช่วง"และสุขภาพของ "หลินฮุ่ย" มีสุขภาพที่ดีมาก ซึ่งในปี 53 จะรีดน้ำเชื้อของ"ช่วงช่วง"ส่งกลับไปให้ประเทศจีนใช้ผสมพันธุ์กับแพนด้าตัวอื่น ส่วนแผนการผสมพันธุ์แพนด้าของไทยครั้งต่อไปน่าจะอยู่ภายในปี 54 หรือ 55