ผู้เชี่ยวชาญ MIT วิเคราะห์เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ปะทะพายุฝน-ฟ้าผ่า ก่อนโหม่งโลกพร้อมผู้โดยสาร 228 คน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 3, 2009 10:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จอห์น ฮันส์แมน ผู้อำนวยการประจำศูนย์การบินระหว่างประเทศจากสถาบัน Massachusetts Institute of Technology (MIT) วิเคราะห์ว่า เครื่องบินแอร์บัส A330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์พร้อมด้วยผู้โดยสาร 228 คนที่หายไปจากจอเรดาร์ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา อาจจะปะทะเข้ากับพายุฝนซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 161 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าเครื่องบินอาจถูกฟ้าผ่าจนทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหายและร่วงลงในที่สุด

ขณะที่ฮานส์ เวเบอร์ ประธานบริษัท Tecop International Inc ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบินวิเคราะห์ว่า เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ปะทะเข้ากับบางสิ่งที่มีอานุภาพรุนแรงจนเป็นเหตุให้ตกลงสู่พื้นโลก ซึ่งอาจจะเป็นพายุฝนที่มีความเร็วลมสูงมากจนสร้างความเสียหายให้กับปีกเครื่องบินและสร้างความยากลำบากให้กับนักบิน

"โดยปกติแล้ว เครื่องบินถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สามารถต้านแรงลมได้มากกว่าพิกัดที่กำหนดไว้ แต่สถานการณ์ของแอร์ฟรานซ์ลำนี้ต้องหนักหนาสาหัสมากและอาจปะทะเข้ากับพายุที่มีกำลังลมรุนแรงมาก" เวเบอร์กล่าว

ด้านเฮนรี มาร์กัสตี ผู้เชี่ยวชาญด้านการพยากรณ์อากาศจาก Accuweather.com กล่าวว่า "พายุลูกเล็กๆที่เคลื่อนตัวอยู่เหนือเมฆสามารถทวีความรุนแรงขึ้นจนดูดเครื่องบินทั้งลำเข้าไปอยู่ในจุดศูนย์กลางของแรงลมได้ เราสันนิษฐานว่าเครื่องบินอาจถูกดูดเข้าไปอยู่ตรงกลางที่ถูกขนาบด้วยพายุหลายลูก และอาจจะถูกฟ้าผ่าซ้ำด้วย"

ฮันส์แมนซึ่งเป็นผู้อำนวยการประจำศูนย์การบินระหว่างประเทศของ MIT ยังกล่าวด้วยว่า "โดยปกติแล้วพายุฝนจะก่อให้เกิดก๊าซบนชั้นบรรยากาศและยากที่นักบินจะหลีกเลี่ยงได้ จุดที่เครื่องบินแอร์ฟรานซ์หายไปจากจอเรดาร์เราเรียกว่าจุด "intertropical convergence zone" ซึ่งเป็นจุดที่พายุฝนเหวี่ยงตัวในช่วงกว้างจากฝั่งตะวันออกไปยังตะวันตก สถานการณ์ของกัปตันแอร์ฟรานซ์ในเวลานั้นจะเหมือนกับหนูที่พยายามหาทางออกจากเขาวงกต กัปตันที่พาเครื่องมุ่งหน้าจากอเมริกาเหนือไปยังยุโรปก็พยายามมองหาช่องว่างที่อยู่ท่ามกลางพายุเหล่านี้ เพื่อจะพาเครื่องบินฝ่าออกไปให้ได้ แต่ทำได้ยากมาก"

เครื่องบินแอร์บัส A330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ได้ขาดการติดต่อจากศูนย์ควบคุมการบินหลังจากปะทะเข้ากับหลุมอากาศและส่งสัญญาณฉุกเฉินให้ศูนย์ควบคุมการบินทราบหลังบินออกจากนครรีโอ เดอ จาเนโร ได้ไม่นาน ส่วนรายงานล่าสุดนั้น เนลสัน โจบิม รมว.กลาโหมบราซิลแจ้งว่า พบสายไฟและเศษซากโลหะลอยอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ซึ่งได้รับการยืนยันแฃ้วว่าเป็นเศษซากของเครื่องบินลำนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ