รายงานดัชนีสันติภาพโลก (GPI) ประจำปี 2552 ที่ทำการสำรวจใน 144 ประเทศระบุว่า นิวซีแลนด์ครองแชมป์ประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลก ขณะที่ทั่วโลกเผชิญภาวะระส่ำระสายในช่วงปีที่ผ่านมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่รุนแรงในบางประเทศ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำครั้งรุนแรง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานดัชนี GPI ประจำปีนี้เผยว่า นิวซีแลนด์รั้งอันดับ 1 ของประเทศที่มีความสงบสุขที่สุดในโลกตามมาด้วยเดนมาร์ก และนอร์เวย์ โดยกลุ่มประเทศในแถบสแกนดิเนเวียทั้งหมดล้วนติดท็อปเท็นของดัชนี GPI ในปีนี้ ขณะที่ในกลุ่มประเทศ G8 นั้นญี่ปุ่นรั้งอันดับ 7 ส่วนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่นั้น จีนรั้งอันดับ 74 บราซิลอยู่ที่อันดับ 85 และอินเดียครองอันดับ 122 ขณะที่ประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐขยับขึ้นมา 6 อันดับจากปีที่แล้วมาอยู่ที่อันดับ 83 แต่ประเทศที่มีความสงบสุขน้อยที่สุดคือ อิรัก ตามด้วยอัฟกานิสถาน และโซมาเลีย
ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์เป็นตัวอย่างชั้นดีของประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและสันติภาพ โดยขึ้นชื่อว่าเป็นชาติสงบสุขมากที่สุดในโลกจากการสำรวจในปีที่แล้ว แต่ปีนี้หล่นมาอยู่ที่อันดับ 4 จากผลกระทบของระบบการเงินที่ล่มสลาย ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความสงบสุขคือปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการสร้างความมั่งคั่งให้กับแต่ละประเทศ
สตีฟ คิลเลเลีย ผู้จัดทำดัชนีสันติภาพโลกกล่าวว่า ในปีของการจัดทำดัชนีสันติภาพโลกปีที่สามนี้เราเริ่มเห็นปัจจัยที่บ่งชี้ถึงความสงบสุขได้ชัดขึ้น รวมถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ประชาชนได้รับอย่างเต็มที่
ด้านมาร์ก มูดี-สจ๊วร์ต ประธานองค์การ Global UN Compact ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนการทำดัชนีสันติภาพโลกกล่าวว่า ในปีนี้ดัชนีดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและสันติภาพมากขึ้น โดยบางครั้งบรรดานักธุรกิจต้องพิจารณาถึงความแข็งแกร่ง ความโปร่งใส และรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีจรรยาบรรณ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีบทบาทมากขึ้นในการชี้วัดความมีเสถียรภาพและความสงบสุขของแต่ละประเทศ