หอการค้าและอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย (KADIN) กล่าวว่า อินโดนีเซียอาจสามารถทำหน้าที่เป็นครัวของโลกได้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่กว้างขวาง มีชายฝั่งเป็นแนวยาว และมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ทำให้ประเทศมีทรัพยาการด้านการเกษตร ป่าไม้ และประมงอย่างเหลือเฟือ
KADIN กล่าวว่าจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้ความต้องการอาหารพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนหลายประเทศเกิดภาวะขาดแคลน ในขณะเดียวกันภาวะโลกร้อนก็ทำให้เกิดภัยธรรมชาติและเกิดโรคพืช ทำให้พืชผลที่เป็นอาหารเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ ส่งผลให้ภาวะขาดแคลนอาหารเลวร้ายยิ่งขึ้น
"สต็อกอาหารที่ลดลงอาจทำให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นจนเกิดวิกฤตอาหารในที่สุด" KADIN กล่าว
เพื่อเป็นการเพิ่มบทบาทในฐานะครัวโลก KADIN จึงจัดโครงการ "ให้อาหารโลก" ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ต.ค.นี้ โดยจะมีการประชุมสัมมนาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ข้าว น้ำตาล ข้าวโพด ถั่วเหลือง ชา โกโก้ รวมถึงการทำปศุสัตว์และการทำประมง เป็นต้น
"ในการประชุม จี20 เมื่อต้นเดือนเม.ย. ประชาคมโลกได้แสดงความคาดหวังให้อินโดนีเซียเป็นผู้จัดหาอาหารให้กับโลก เนื่องจากอินโดนีเซียสามารถเลี้ยงตัวเองได้ท่ามกลางวิกฤตทั่วโลก" จวน เปอร์มาตา อาโด รองประธานฝ่ายประมงและปศุสัตว์ ของ KADIN กล่าว
ฟรานซิสกัส เวลิรัง หัวหน้าคณะกรรมาธิการถาวรด้านการกักเก็บอาหารและวิกฤตอาหารของ KADIN กล่าวว่า วิกฤตอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการขาดสารอาหารและความยากไร้
"ถึงเวลาแล้วที่อินโดนีเซียต้องมีส่วนร่วมในระดับนานาชาติ" เขากล่าว
ทั้งนี้ KADIN กล่าวว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่สามารถพึ่งพาตนเองด้านการเกษตร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของอินโดนีเซียก็อาจเป็นที่นิยมไปทั่วโลก สำนักข่าวซินหัวรายงาน