นายเนลสัน โจบิม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของบราซิล กล่าวว่า เครื่องบันทึกเสียงและข้อมูลหรือกล่องดำของเครื่องบินโบอิ้ง เอ330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ 228 คนที่ประสบอุบัติเหตุตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติคเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น อาจจมอยู่ใต้ท้องมหาสมุทรแอตแลนติค โดยเครื่องบินกองทัพอากาศบราซิลได้ค้นพบเศษซากเครื่องบินในมหาสมุทรบริเวณ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งเศษซากเครื่องบินที่เก็บมาได้นั้น ชิ้นหนึ่งเป็นโลหะที่มีความยาว 7 เมตร หรือ 23 ฟุต อีกทั้งยังมีคราบน้ำมันเป็นทางยาวถึง 20 กิโลเมตร แต่ยังไม่พบศพ
บลูมเบิร์กรายงานว่า คณะผู้ตรวจสอบกล่าวว่า อาจจะใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่จะระบุสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ ซึ่ขณะนี้รัศมีในการค้นหากล่องดำของเจ้าหน้าที่อยู่ที่ 200 กิโลเมตร และยังไม่พบสัญญาณใดๆที่จะบ่งชี้ได้ว่า กล่องดำซึ่งบรรจุข้อมูลการติดต่อสื่อสารของนักบิน ความเร็ว และความสูงในขณะที่บินนั้น ตกอยู่บริเวณใด
พอล หลุยส์ อาร์สลาเนียน ผู้อำนวยการฝ่ายสอบสวน กล่าในการแถลงข่าวว่า ผมไม่คิดว่าการค้นหาจะเป็นเรื่องง่าย เพราะไม่ใช่ปัญหาเรื่องความลึกของน้ำทะเลอย่างเดียวเท่านั้น แต่สภาพใต้ท้องทะเลในบริเวณดังกล่าวยังเป็นภูเขาใต้ทะเลอีกด้วย เครื่องบันทึกเสียงจะสามารถช่วยเราได้มาก แต่ก็ไม่จำเป็นสำหรับการสอบสวน
ทางด้านฌอง หลุยส์ บอร์โล รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานฝรั่งเศส กล่าวว่า เศษซากของเครื่องอาจจะอยู่ลึกถึง 3,000 เมตร หรือ 9,800 ฟุต
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วกล่องดำจะส่งสัญญาออกมา 30 วันหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว ซึ่งปกติกล่องดำจะมีสีส้มสด เพื่อให้สังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แอร์ฟรานซ์รายงานว่า เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ที่ออกเดินทางจากนครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ประสบกับพายุและสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนัก หลังจากโดยระบบส่งข้อความอัตโนมัติจากเครื่องได้ส่งข้อความใจความว่า แผงวงจรไฟฟ้าขัดข้องในบริเวณน่านน้ำของมหาสมุทรที่อยู่ห่างไกลจากชายฝั่ง หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่เครื่องบินอาจจะถูกฟ้าผ่า