ดุสิตโพลเผยคน กทม.เชื่อโครงการรถเมล์ NGV ไม่โปร่งใส แนะศึกษาให้รอบคอบ

ข่าวทั่วไป Friday June 5, 2009 14:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อโครงการเช่ารถเมล์ NGV 4,000 คัน พบว่าประชาชน 48.48% คิดว่าโครงการดังกลาวไม่มีความโปร่งใส แต่ยังใกล้เคียงกับอีก 45.02% ที่ระบุว่าไม่แน่ใจ มีเพียง 6.50% เท่านั้นที่บอกว่าโปร่งใส

ทั้งนี้หากประชาชนมีอำนาจในการตัดสินใจต่อโครงการนี้ สิ่งที่ประชาชนจะตัดสินใจทำมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ การศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความรอบคอบ โปร่งใส และปรับลดค่าใช้จ่ายให้มากกว่านี้ รองลงมา คือ การปรับปรุงการบริการของ ขสมก.และรถร่วมเอกชนให้ดีขึ้นทุกด้าน และอันดับสาม การขจัดปัญหาการรั่วไหล การทุจริตที่ทำให้ ขสมก.ขาดทุน

ประชาชนส่วนใหญ่ 40.13% เห็นว่าวัตถุประสงค์ของโครงการเช่ารถเมล์ NGV ดังกล่าวก็เพื่อปรับปรุงการบริการให้ขึ้น โดยนำรถปรับอากาศรุ่นใหม่และมีระบบที่ทันสมัยมาบริการ นอกจากนี้ยังเห็นว่าเป็นการประหยัดงบประมาณภาครัฐ โดยเป็นการเช่ารถจากภาคเอกชนไม่ใช่การจัดซื้อเอง, เป็นการแก้ปัญหาการขาดทุนที่สะสมมานานของ ขสมก. และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน

ส่วนความเห็นของประชาชนในกรณีที่ ขสมก.จะจัดเก็บค่าโดยสาร 30 บาท/วัน และใช้บริการไม่จำกัดจำนวนเที่ยวนั้น ประชาชนสว่นใหญ่ 72.73% ไม่เห็นด้วย โดยเห็นว่าระดับราคาที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 15-25 บาท ขณะที่ 26.60% เห็นด้วย เพราะเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น, เป็นอัตราที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และราคาคุ้มค่ากับระยะทาง

จากการคาดการณ์รายได้ของ ขสมก.ว่าจะเก็บได้ 10,000-11,000 บาท/คัน/วัน เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่าย ค่าเช่ารถ และเป็นรายได้เข้า ขสมก.นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ 45.11% ไม่แน่ใจว่าจะเป็นได้ เพราะขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการที่ดีและความรอบคอบในการพิจารณาโครงการ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังไม่แน่ใจว่าการปรับค่าเช่ารถเมล์จาก 4,780 บาท/คัน/วัน มาเหลือที่ 4,657 บาท/คัน/วัน จะมีความเหมาะสมหรือไม่

อย่างไรก็ดี การรับทราบข้อมูลข่าวสารและความเข้าใจต่อวัตถุประสงค์ของโครงการเช่ารถเมล์ NGV ดังกล่าวนั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 60.27% ระบุว่า รู้แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ รองลงมา 20.88% ระบุว่ารู้และเข้าใจเป็นอย่างดี และอีก 11.45% รู้แต่ไม่เข้าใจเลย มีเพียง 7.40% ที่ไม่รู้จักโครงการนี้เลย

ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,188 คน ระหว่างวันที่ 2-3 มิ.ย.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ