พนักงานเดินรถไฟใต้ดินของกรุงลอนดอนเริ่มต้นผละงานประท้วงเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อเรียกร้องเรื่องค่าแรงและความมั่นคงในการทำงาน ส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนในเมืองหลวงของอังกฤษต้องได้รับผลกระทบเนื่องจากรถไฟหยุดให้บริการ รวมถึงทำให้การจราจรติดขัดในหลายจุดของกรุงลอนดอน
สมาชิกประมาณ 10,000 คนของสหภาพการรถไฟ การเดินเรือ และการขนส่งแห่งชาติ (RMT) ซึ่งรวมถึงบรรดาพนักงานขับรถ ได้เริ่มหยุดให้บริการเมื่อเวลา 18.59 น.วานนี้ หลังจากที่การเจรจาต่อรองนาน 10 ชั่วโมงระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าของการขนส่งแห่งลอนดอน (TfL) และสหภาพ RMT ไม่ได้ข้อสรุป โดยสหภาพฯได้คัดค้านแผนการของนาย บอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีนครลอนดอน ที่จะปรับลดตำแหน่งงาน 1,000 ตำแหน่งที่ TfL
บีบีซีรายงานว่า ประตูทางลงไปสู่สถานีรถไฟใต้ดินถูกปิด ขณะที่ป้ายรถเมล์คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่มายืนรอรถ และถนนหลายสายที่มุ่งสู่เมืองก็ติดขัด เนื่องจากผู้คนหันมาใช้รถยนต์ในการเดินทางไปทำงาน
ทั้งนี้ TfL กล่าวว่า ทางหน่วยงานพร้อมเจรจาทุกเมื่อ ขณะที่นายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่า RMT ปฏิเสธข้อตกลงที่ดีที่สุดไป
ด้านหอการค้าและอุตสาหกรรมลอนดอนกล่าวว่า การผละงาน 2 วัน ทำให้ธุรกิจได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าสูงถึง 100 ล้านปอนด์ (162 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)