ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทยจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ปี 52 ลดลง 0.1-0.3% จากที่คาดไว้ว่าทั้งปี GDP จะติดลบราว 3.5-6% โดยธุรกิจท่องเที่ยว ค้าปลีก และบันเทิง ได้รับผลกระทบมากน้อยตามลำดับ
ทั้งนี้มองว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 1/52 ที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหดตัวถึง 7.1% แต่เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่แพร่กระจายในประเทศอย่างรวดเร็ว แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเหมือนในกรณีโรคซาร์ส
อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ดังกล่าว อาจสร้างผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในการดำเนินชีวิตและการจับจ่ายใช้สอย เช่น ในด้านสันทนาการและการท่องเที่ยว เพราะอาจสร้างความกังวลต่อประชาชนที่พยายามหลีกเลี่ยงหรือลดการทำกิจกรรมในสถานที่ปิด หรือสถานที่มีผู้คนแออัด พลุกพล่าน โดยธุรกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบค่อนข้างมากคือ การท่องเที่ยว
"นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนหนึ่งอาจหลีกเลี่ยงการเข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากกังวลต่อโอกาสการติดเชื้อ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ซึ่งมีกรณีที่ติดเชื้อหลังจากมาท่องเที่ยวที่พัทยา ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยที่กังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคอาจหลีกเลี่ยงการเดินทางในระยะนี้ ส่วนธุรกิจค้าปลีกอาจกระทบยอดขายของห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรด โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง ธุรกิจบริการโดยสารสาธารณะ และกิจกรรมอื่นๆ ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด พลุกพล่าน" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ผลกระทบดังกล่าวจะสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมมูลค่าประมาณ 9,000-28,000 ล้านบาท โดย 65% เป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีผลทำให้เศรษฐกิจปี 52 ลดลง 0.1-0.3% จากที่เคยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจทั้งปีจะหดตัวที่ 3.5%
โดยการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/52 ลดลงประมาณ 0.2-0.3% จากที่คาดว่าเศรษฐกิจอาจหดตัวที่ 5.6% และส่งผลต่อเนื่องให้เศรษฐกิจไตรมาส 3/52 ลดลงประมาณ 0.2-0.9% จากที่คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว ที่ 4%
ทั้งนี้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังคงมีความเสี่ยงที่อาจจะรุนแรงกว่าการประเมิน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและยาวนานของการระบาดของโรค แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังไม่ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ยังคาดว่าจะหดตัว 3.5-6% ซึ่งเป็นกรอบที่น่าจะสามารถรองรับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ในขั้นรุนแรงได้
พร้อมกันนี้ได้เสนอแนะให้ภาครัฐควรเปิดเผยข้อมูลให้เกิดความโปร่งใส รวมทั้งมีมาตรการรณรงค์สร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนในการป้องกันการติดต่อของโรค เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรคให้ได้เร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและชาวต่างชาติต่อแนวทางปฏิบัติและมาตรการรับมือของประเทศไทย