ธนาคารโลกออกโรงเตือน การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้อาจทวีความรุนแรงเทียบเท่าเหตุการณ์การระบาดของไข้หวัดฮ่องกงเมื่อปี 2511-2512 ที่สร้างความเสียหายราว 0.7% ของตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ
การระบาดของเชื้อไวรัส H1N1 ชนิด A อาจฉุดรั้งตัวเลข GDP ช่วงไตรมาส 2 ของเม็กซิโกให้ร่วงลงมา 2.2% เนื่องจากวิกฤตดังกล่าวส่งผลกระทบให้บรรยากาศทางธุรกิจในกรุงเม็กซิโกซิตี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม และอุตสาหกรรมการขนส่งต้องหยุดชะงัก
นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังเตือนด้วยว่า การแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าวอาจขยายวงกว้างได้รวดเร็วขึ้นในช่วงเริ่มต้นฤดูการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มประเทศในแถบซีกโลกใต้ ก่อนที่จะไปถึงกลุ่มประเทศแถบซีกโลกเหนือ ซึ่งในฤดูระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามปกตินั้นจะมีผู้เสียชีวิตสูงสุดถึง 1.5 ล้านรายทั่วโลก โดยการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้จะทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1.4 ล้านราย
บลูมเบิร์กรายงานอ้างการเปิดเผยของธนาคารโลกที่ระบุว่า "แม้ว่าเชื้อดังกล่าวจะยังไม่กลายพันธุ์เป็นโรคที่ร้ายแรงถึงชีวิตมากขึ้น แต่กลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อยอาจต้องเผชิญกับผลกระทบที่เลวร้ายจากการระบาดของไข้หวัดระลอกสอง เนื่องจากประเทศเหล่านี้ยังไม่มีความสามารถในการเฝ้าระวังและรับมือกับการแพร่ระบาด รวมถึงการรักษาผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนสูงขึ้น"