นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในไทยรายที่ 4 และ 5 ในวันนี้ว่า ผู้เสียชีวิตรายที่ 4 เสียชีวิตที่โรงพยาบาลชลบุรี เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น.เป็นหญิงวัย 15 ปี เริ่มป่วยด้วยไข้สูงตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.52 ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอ่าวอุดม แพทย์รับไว้รักษาในโรงพยาบาล พร้อมทั้งให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์และยาปฏิชีวนะอีกหลายชนิด แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชลบุรี เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.52
ผู้เสียชีวิตรายนี้มีโรคประจำตัวหลายโรค ได้แก่ เนื้องอกในสมอง เบาหวาน เบาจืด และโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้มีภูมิต้านทานโรคต่ำ แพทย์ได้ให้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ แต่อาการทรุดลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในที่สุด
ส่วนรายที่ 5 เสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อช่วงสายวันนี้ เป็นชายวัย 45 ปี มีประวัติดื่มสุราอย่างต่อเนื่อง เริ่มป่วยด้วยอาการไข้สูงตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.52 มาโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.52 ตรวจพบมีภาวะปอดบวม หายใจเหนื่อยหอบ แพทย์รับไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ทันที
หลังจากนั้น ผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีภาวะปอดบวมมากขึ้น หายใจหอบเหนื่อย ความดันโลหิตลดต่ำลง แพทย์จึงย้ายเข้าห้องไอซียู และใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดพิเศษช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในร่างกาย พร้อมทั้งให้ยาควบคุมความดันโลหิต ในวันรุ่งขึ้นผู้ป่วยอาการดีขึ้นเล็กน้อย ต่อมาเริ่มมีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ แพทย์ให้ยาควบคุมการทำงานของหัวใจ ต่อมามีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติมากขึ้น ต้องใช้เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ 2 ครั้ง ความดันโลหิตยังคงลดต่ำลง อาการอยู่ในขั้นวิกฤติ ทีมแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่ และแจ้งอาการให้ญาติทราบเป็นระยะ ซึ่งญาติมีความเข้าใจเป็นอย่างดี
นายวิทยา ยืนยันว่า ทีมแพทย์ได้ให้การรักษาตามมาตรฐานสากล แต่เพื่อให้เกิดความรอบคอบได้ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการ เก็บข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดของผู้ป่วยทั้งที่หายดี ผู้ที่ป่วยหนักและเสียชีวิตมาวิเคราะห์การดำเนินของโรค รวมทั้งความรุนแรงของเชื้อ เพื่อวางแผนและปรับมาตรการในการป้องกันดูแลและรักษาให้เหมาะสม
ทั้งนี้ ในทางวิชาการอาจจะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกได้ตามจำนวนผู้ป่วยที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อัตราป่วยตายยังอยู่ในระดับเดียวกับทั่วโลก และขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขจะพยายามทุกวิถีทางที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด โดยรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อและไม่แพร่เชื้อเมื่อมีอาการป่วย
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการดูแลรักษาประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้ประชาชนมั่นใจ โดยขณะนี้ทุกโรงพยาบาลได้จัดช่องทางด่วนสำหรับผู้ป่วยที่สงสัยว่าจะป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มีระบบการคัดกรองเป็นการเฉพาะแยกจากผู้ป่วยทั่วไป รวมทั้งมีห้องแยกที่เป็นระบบปิดในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อออกไปสู่ภายนอก ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกเมื่อ 3-4 ปีก่อน