(เพิ่มเติม) ครม.สั่งปิด รร.กวดวิชา 15 วัน จาก 13-28 ก.ค.สกัดการแพร่ระบาดหวัด 2009

ข่าวทั่วไป Thursday July 9, 2009 15:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้ เห็นชอบให้โรงเรียนกวดวิชาปิดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13-28 ก.ค.นี้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา

"สถาบันกวดวิชาเป็นแหล่งที่มีการเพาะเชื้อไข้หวัด 2009 ตามรายงานที่พบว่า ใน กทม.หรือแม้ในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น จ.อุบลราชธานี ก็มีเด็กนักเรียนป่วยจากสถาบันกวดวิชาเช่นกัน เนื่องจากสถาบันเหล่านี้มีเด็กจำนวนมากไปเรียนในห้องที่แคบ" นายชัยวุฒิ กล่าว

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขยังนำตัวเลขผู้ป่วยมารายงานให้ ครม.รับทราบ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไปดูคอนเสิร์ตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ คอนเสิร์ตอัสนี-วสันต์ และคอนเสิร์ตจากศิลปินเกาหลี(ดงบังชิงกิ) ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี

"มีหลักฐานจากผู้ป่วยว่าได้ไปชมคอนเสิร์ตทั้ง 2 รายการและไม่เกิน 3 วันก็ป่วยและพบว่ามีตัวเลขผู้ป่วยที่สูงขึ้นหลังจากทั้ง 2 คอนเสิร์ตนี้" นายชัยุฒิ กล่าว

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้ รมว.วัฒนธรรม ไปประสานขอความร่วมมือกับร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต ให้ปิดบริการชั่วคราวในช่วงดังกล่าวด้วย เพื่อทำความสะอาดและสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว เนื่องจากพบผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนอายุ 11-20 ปี โดยนักเรียนที่ป่วยสามารถหยุดเรียนได้ทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องการสอบ เพราะกระทรวงศึกษาธิการจะจัดสอบให้ภายหลัง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากสัดส่วนผู้เสียชีวิตมีเพิ่มถึง 1.5% ก็จะดำเนินการประกาศปิดประเทศตามหลักเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ แต่ปัจจุบันยังมีสัดสวนอยู่ที่ 0.4% โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 12 ราย

"มาตรการที่ใช้กัน อัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มสูงถึง 1.5% อย่างประเทศแถบทวีปอเมริกา ถ้าไปถึงตรงนั้นก็ต้องเป็นไปตามมาตรฐานนั้นด้วย(ปิดประเทศ)"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าว องค์การอนามัยโลกแจ้งว่าจะมีการแพร่ระบาดไปทั่วโลกจนถึงปีหน้า ซึ่งรัฐบาลพยายามออกมาตรการเพื่อบรรเทาสถานการณ์ให้ทุเลาลง หลังจากนี้อีก 2 สัปดาห์จะกลับมาประเมินอีกครั้งว่าจะต้องออกมาตรการเพิ่มเติมอีกหรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ