เสธ.แนะปรับกม.กกต.-ปปช.ให้สอดคล้อง ตัดปัญหาส.ส.ถือหุ้นบริษัทต้องห้าม

ข่าวทั่วไป Friday July 17, 2009 13:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี แนะให้มีการปรับปรุงกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กับกฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสับสนจากการที่ ส.ส.หลายคนเข้าไปถือหุ้นในบริษัทต้องห้ามต่างๆ เพราะไม่ได้เจตนาหรือศึกษากฎหมายไม่ครบถ้วนชัดเจนก่อน จึงทำให้ส่งผลต่อสมาชิกความเป็น ส.ส.ตามที่ กกต.ได้วินิจฉัยไปเมื่อวานนี้

"ต้องทำกฎหมายให้เป็นฉบับเดียวกัน ลูกที่บรรลุนิติภาวะไปเล่นหุ้นก็โดนอีก นี่อะไรก็ไม่รู้ เราจะไปบังคับลูกอายุ 40 กว่าได้อย่างไร เขาก็ต้องทำมาหากิน ต้องเล่นหุ้น กฎหมายต้องแก้ไข" พล.ต.สนั่น ระบุ

ทั้งนี้ พร้อมยอมรับคำวินิจฉัยจาก กกต.หากเห็นว่าการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ของตนขัดกับหลักกฎหมาย แต่ยังมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และหากมีการเลือกตั้งใหม่ก็คงจะไม่มีส่งผู้สมัครลงแข่งขันกับพรรคที่เคยชนะการเลือกตั้งในพื้นที่นั้นมาก่อน

อนึ่ง กกต.ยังเหลือการวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.จากทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านรวมอีก 44 คน ที่เข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานของรัฐ หรือบริษัทที่ทำธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ ตามคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และนายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ

ในจำนวนส.ส. 44 คน พบว่ามี ส.ส.ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ 6 คน ประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน, นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน, นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย, นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ