เอแบคโพลล์เผยคนไทยเกินครึ่งหนี้ท่วมหัว บ่อเกิดปัญหาสังคม-การเมือง-ศก.

ข่าวทั่วไป Sunday July 19, 2009 14:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เอแบคโพลล์เผยผลสำรวจพบคนไทยเกินครึ่งหรือ 54.5% มีหนี้สินส่วนตัวเฉลี่ยคนละ 304,842.32 บาท จากจำนวนหนี้ส่วนตัวต่ำสุดอยู่ที่ 950 บาท และสูงสุดอยู่ที่ 9.5 ล้านบาท โดยทุกกลุ่มรายได้มีจำนวนหนี้สินมากกว่า 10 เท่าของรายได้ส่วนตัวที่ได้รับในแต่ละเดือน ขณะที่หนี้สินครัวเรือนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ที่ 514,313.72 บาท โดยมีหนี้ครัวเรือนต่ำสุดอยู่ที่ 12,000 บาท และสูงสุดอยู่ที่ 30 ล้านบาท

"คนไทยอยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วง เพราะมีหนี้สินส่วนตัวและหนี้สินครัวเรือนล้นพ้นตัวเกินกว่ารายได้ที่ได้รับแต่ละเดือนหลายเท่า จึงส่งผลกระทบตามมาต่อปัญหาสังคม การเมืองและเศรษฐกิจ" นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระบุในเอกสารเผยแพร่

โดยกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือนมีหนี้สินส่วนตัวเฉลี่ย 123,130.10 บาท กลุ่มคนที่มีรายได้ระหว่าง 10,001-25,000 บาทต่อเดือนมีหนี้สินส่วนตัวเฉลี่ย 351,271.00 บาท กลุ่มคนที่มีรายได้ระหว่าง 25,001-50,000 บาทมีหนี้สินส่วนตัวเฉลี่ย 659,665.10 บาท และกลุ่มคนที่มีรายได้เกิน 50,000 บาทต่อเดือนมีหนี้สินส่วนตัวเฉลี่ย 919,993.30 บาท

ผลสำรวจยังพบว่า ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่หรือ 69.4% ยังไม่คิดจะซื้อสินค้าประเภทรถยนต์คันใหม่ บ้านหลังใหม่ เครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ เป็นต้น มีประชาชนเพียง 30.6% เท่านั้นที่ตั้งใจจะซื้อ โดยเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้มากกว่า 50,000 บาทขึ้นไป

สำหรับความคิดเห็นด้านการเมืองโดยทั่วไปในขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ 52.2% มองกันว่าบรรยากาศการเมืองค่อนข้างดีถึงดีขึ้นมาก ส่วนประเด็นร้อนทางการเมืองเกี่ยวกับ ส.ส. และ ส.ว.ที่ กกต.มีมติให้ขาดคุณสมบัติเรื่องถือครองหุ้น ประชาชน 40.7 เห็นว่าควรลาออกทันที ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ 59.3% เห็นว่าให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมขั้นสิ้นสุดจะวินิจฉัยตัดสิน

นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ 62.7% เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญตอนนี้ แต่เมื่อจำแนกตามระดับการศึกษาพบว่า ยิ่งการศึกษาสูงขึ้นมีจำนวนคนที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเวลานี้ลดน้อยลง และเมื่อจำแนกตามภูมิภาคพบว่า ประชาชนเกินกว่าครึ่งหนึ่งในทุกภาคเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญตอนนี้ คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 67.0%, กรุงเทพฯ 64.5%, ภาคเหนือ 64.1%, ภาคกลาง 57.9% และภาคใต้ 55.9%

"ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า ส.ส. และ ส.ว. ควรรอการพิจารณาวินิจฉัยของกระบวนการยุติธรรมให้สิ้นสุดมากกว่าการลาออกเพราะ กกต. ชี้ความผิดเรื่องถือครองหุ้นตอนนี้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่กำลังเปลี่ยนใจเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญในตอนนี้ แตกต่างไปจากการสำรวจที่เคยค้นพบ" นายนพดล กล่าว

ทั้งนี้ เอแบคโพลล์ ได้ทำการเรื่องภาวะหนี้สินระดับบุคคลและครัวเรือนกับประเด็นสำคัญทางการเมือง จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัด จำนวน 4,102 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 7-18 ก.ค.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ