ปิดประชุมรัฐมนตรี ตปท.อาเซียน หวังสร้างเป็น"ประชาคมเพื่อประชาชน"

ข่าวทั่วไป Thursday July 23, 2009 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานการประชุม รมว.ต่างประเทศอาเซียน กล่าวปิดการประชุม รมว.ต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 42 ว่า ว่า เมื่อประเทศไทยได้เข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียนต่อจากสิงคโปร์เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ถือเป็นการรับมอบคบเพลิงแห่งการสร้างประชาคมอาเซียน ซึ่งนับจากเวลานั้น ได้ผลักดันให้มีความคืบหน้าไปมากด้วยการร่วมแรงร่วมใจของประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ

โดยโครงสร้างใหม่ของอาเซียนได้รับการวางรากฐานโดยการมีผลใช้บังคับของกฎบัตรอาเซียน โครงการและมาตรการต่าง ๆ ที่จะดำเนินการเพื่อผลักดันการรวมตัวเป็นประชาคมทั้ง 3 เสาหลักได้รับการบรรจุไว้ในปฏิญญาชะอำ หัวหิน ว่าด้วยแผนงานสำหรับประชาคมอาเซียน กลไกใหม่ ๆ ของอาเซียนซึ่งรวมถึงคณะมนตรีประสานงานอาเซียน คณะมนตรีประชาคมอาเซียน และคณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียนที่กรุงจาการ์ตาได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่แล้ว

การประชุมช่วง 5 วันที่ผ่านมา สามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นที่สำคัญซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้อาเซียนเป็นองค์กรที่มีกฎกติกาในการทำงานและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยคณะมนตรีประชาคมการเมือง-ความมั่นคงอาเซียนได้รับรองร่างกฎระเบียบสำหรับการดำเนินงาน ซึ่งจะใช้เป็นแนวทางในการยกร่างกฎระเบียบสำหรับประชาคมเศรษฐกิจและประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนในอนาคตด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ให้ความเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของอาเซียน รวมทั้งได้หารือเกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนากลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียน เหล่านี้นับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการให้สถานะนิติบุคคลแก่อาเซียน

การรับรองร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชนจะช่วยวางรากฐานสำหรับการเสริมสร้างความพยายามของเราในการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน การประกาศเริ่มดำเนินงานของคณะกรรมาธิการดังกล่าวจะเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะทำให้อาเซียนเป็น “ประชาคมเพื่อประชาชน"

การเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ตลอดจนการลงนามในบันทึกความเข้าใจ 2 ฉบับที่เกี่ยวกับความร่วมมืออาเซียน-ออสเตรเลียและอาเซียน-รัสเซียที่เราได้ร่วมเป็นสักขีพยาน เป็นเครื่องย้ำถึงการเป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาภายนอก

ทั้งนี้เชื่อว่า ผลการหารือครั้งนี้ จะได้รับการพัฒนาต่อไปให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อผู้นำของสมาชิก ได้พบกันอีกครั้ง ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องที่กำหนดจะจัดขึ้นในเดือน ต.ค. 52 เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ข้อตัดสินใจจะได้รับการปฏิบัติอย่างครบถ้วนและทันเวลา เพื่อแสดงให้เห็นว่า อาเซียนกำลังมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมที่เน้นการปฏิบัติ

และต้องเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อให้อาเซียนสามารถตอบสนองต่อปัญหาท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจและการเงิน ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน หรือการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ ต้องร่วมมือต่อไปเพื่อสร้างความมั่นใจว่าประชาชน ประเทศของเราจะได้รับประโยชน์จากการรวมตัวของอาเซียนอย่างเต็มที่โดยผ่านการลดช่องว่างในการพัฒนา การเสริมสร้างขีดความสามารถของประชาชน และการพัฒนาการเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ในภูมิภาค ต้องสร้างความมั่นใจว่าประชาชนทุกภาคส่วนจะเข้ามามีส่วนร่วมและมีความรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของในกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียน

"ภารกิจของเราไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือกันของพวกเราทั้งมวลจะช่วยให้เราสามารถบรรลุผลได้ตามเป้าหมาย ผมเชื่อมั่นว่า เมื่อถึงเวลาที่ไทยจะต้องส่งต่อคบเพลิงของอาเซียนนี้ให้แก่เวียดนามในอีก 6 เดือนข้างหน้า อาเซียนจะมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนไปสู่ประชาคมที่มุ่งเน้นที่การปฏิบัติและมีการเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชน" นายกษิต กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพิธีปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ จ.ภูเก็ต เป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยกระทรวงการต่างประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพไปมอบแสตมป์ที่ระลึกเป็นภาพหมู่รัฐมนตรีแต่ละประเทศ พร้อมธงชาติไทย พื้นหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ประเทศต่างๆ ใส่กรอบอย่างดี มอบให้เป็นที่ระลึก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ