พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ อดีตประธานกรรมการ บมจ. เอส.อี.ซี.ซี.ออโต้เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) ซึ่ง เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 2134/2552 และนายกฤช เอกมงคลการ ผู้บริหาร บริษัท แอปเปิล กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 2135/2552 หลังดีเอสไอสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ร่วมกันทุจริตยักยอกทรัพย์ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
และยังพบด้วยว่าผู้ต้องหากระทำผิดเกี่ยวกับบัญชีหรือเอกสาร เพื่อลวงให้นิติบุคคลหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองราย ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่ปลายปี 51
อนึ่ง คดียักยอกทรัพย์นี้ ดีเอสไอ ได้ขยายผลสอบพฤติกรรมผู้ต้องหา SECC ย้อนหลัง 2 ปี หลังพบพฤติกรรมการยักยอกทรัพย์ โดยพบว่ามีการจ่ายเงินผ่านเช็คของธนาคารพาณิชย์กว่า 10 แห่ง เป็นค่ารถยนต์ที่ไม่มีอยู่จริงจำนวน 200 กว่าคัน
และในปี 50 ยังพบว่า มีการจ่ายเงินค่ารถยนต์ที่ไม่มีอยู่จริง จำนวน 100 คัน ซึ่งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ร้องดีเอสไอ เพื่อกล่าวโทษ นางสาวนิภาพร คมกล้า อดีตผู้ช่วยกรรมการฝ่ายบัญชีและการเงิน SECC และนายสมชาย คุรุจิตโกสล ผู้ตรวจสอบบัญชี ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการสอบสวน