นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงในคดีการลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนและจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง
"เมื่อวานยังไม่ได้คุย งานดึก แต่จะคุยวันนี้ จะจบในสัปดาห์นี้"นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากในท้ายสุดแล้วจะมีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ยังเชื่อว่าจะไม่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตนกับนายกรัฐมนตรี พร้อมมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในฐานะพี่ชายของผบ.ตร.
"คงจะไม่กระทบ ไม่คิดว่ามีปัญหา ผมมองโลกในแง่ดี...ไม่คิดว่าจะมีอะไร เราทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง" นายสุเทพ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จากรายงานข้อมูลการสืบสวนสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ที่ได้รับมาจาก 4 แหล่ง ทั้งจากผบ.ตร.เอง, จาก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร., จาก พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)นั้น ไม่พบว่ามีสิ่งใดบ่งชี้ว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคต่อการทำคดีลอบยิงนายสนธิ
ส่วนข้อมูลทางคดีที่นายกรัฐมนตรีได้รับไปซึ่งอาจไม่ตรงกับที่ตนได้เคยส่งข้อมูลไปให้นั้น คงไม่ขอวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด และมองว่ากระแสข่าวการปลด ผบ.ตร.อาจเป็นเพียงการปล่อยข่าวเท่านั้น เพราะขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจนใดๆ จนกว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ออกมาชี้แจง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 31 ก.ค.นี้ว่า ในฐานะที่ดูแลด้านความมั่นคง จะทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้ดีที่สุด แม้กลุ่มเสื้อแดงได้ออกมาประกาศจะขับไล่รัฐบาลอีกครั้งก็ตาม โดยขณะนี้ยังไม่อยากคาดการณ์อะไรไปล่วงหน้า ว่าการชุมนุมครั้งนี้จะนำไปสู่เหตุการณ์บานปลายหรือไม่
พร้อมยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการที่กลุ่มเสื้อแดงได้เข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อจะขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม และไม่กังวลว่าจะมีปัญหาหรือความวุ่นวายเกิดขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.ซึ่งเป็นวันเสียงปืนแตกที่กลุ่มเสื้อแดงได้กำหนดว่าจะใช้เป็นวันยื่นถวายฎีกา โดยรัฐบาลจะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างดีที่สุด