ศาลจังหวัดนครปฐมมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบ.สตม.)เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง กับพวกรวม 2 ราย ที่ตกเป็นจำเลยในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่และหมิ่นประมาท ด้วยการเสนอข่าวว่า พล.ต.ท.บุญเรือง ถูกโยกย้ายเนื่องจากไม่สนองนโยบาย โดยเฉพาะจากการกักตัวน้องเขยของกษัตริย์ภูฏานเป็นเวลา 2 วัน
คำพิพากษาของศาลฯ ระบุว่า หลังจากได้ตรวจพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค.50 เวลา 20.12 น.จำเลยที่ 1 ได้ลงข่าวดังกล่าวผ่านเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ดอทคอม ซึ่งศาลฯ เห็นว่าข้อความที่ลงเป็นความจริงในสาระสำคัญ แต่คลาดเคลื่อนเฉพาะระยะเวลาในการกักตัวน้องเขยของกษัตริย์ภูฏาน เพราะความจริงมีการกักตัวไว้เพียง 2 ชั่วโมง ไม่ใช่ 2 วันอย่างที่ระบุ
ศาลฯ ยังพบข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้คัดลอกข่าวดังกล่าวมาจากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเผยแพร่ในคืนวันเดียวกับที่ได้นำมาลงในเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ฯ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจำเลยรู้หรือควรจะรู้ว่าข่าวชิ้นนั้นคลาดเคลื่อนแต่อย่างใด และยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาหวังผลจากการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทโจทก์ ทั้งเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต และไม่ได้กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายข้อความอันฝืนต่อความจริง
"การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้องโจทก์ ทั้งไม่เป็นการทำละเมิดโจทก์...พิพากษายกฟ้อง" คำพิพากษาของศาลจังหวัดนครปฐม ระบุ
ดังนั้น ปัญหาที่ว่าจำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่ จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย
อนึ่ง คดีนี้ พล.ต.ท.บุญเรือง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องโพสต์ พับลิชชิ่ง เป็นจำเลยที่ 1 และนาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและละเมิด เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาทต่อศาลจังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.50