สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แถลงอุบัติเหตุเครื่องบินเที่ยวบินที่ PG 266 จากกระบี่-สมุยลื่นไถลออกนอกรันเวย์ขณะกำลังลงจอดที่สนามบินสมุย และพุ่งชนกับหอบังคับการบินเก่าอย่างแรงในช่วงบ่ายวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนเป็นกัปตันที่ 1 และมีผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัส 4 คน อีก 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่ผู้โดยสารที่เหลือปลอดภัยและส่งเข้าที่พักแล้ว
ทั้งนี้ ผู้โดยสารบนเครื่องบินลำดังกล่าวมีทั้งหมด 68 คน นักบิน 2 คน ลูกเรือ 2 คน รวมเป็น 72 คน ซึ่งผู้โดยสารเกือบทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ ได้แก่ อังกฤษ, อิตาลี, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, สเปน และอิสราเอล เป็นต้น
นายวุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า เครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบิน PG 266 เกิดอุบัติเหตุเมื่อเวลา 14.10 น.โดยลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับหอบังคับการบินเก่า ทำให้กัปตันชาติชาย ปั้นสุวรรณ เสียชีวิต ส่วนผู้ช่วยนักบินได้รับบาดเจ็บ
ส่วนผู้โดยสารทั้งหมด 68 รายเป็นชาวต่างชาติ มีบาดเจ็บสาหัส 4 รายจากขาหัก เป็นชาวอังกฤษ 2 ราย ชาวสวิส 1 รายและ อิตาเลียน 1 ราย และ บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย เป็นชาวอังกฤษทั้งคู่ ส่วนผู้โดยสาร นักบิน และลูกเรือที่เหลือ 62 รายปลอดภัย โดยทางสายการบินได้จัดส่งไปพักโรงแรมที่จัดไว้
สำหรับเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องนิน ATR 72-500 มีชั่วโมงการบินกว่า 2 หมื่นชั่วโมง จำนวนเที่ยวบินกว่า 1.9 หมื่นเที่ยวบิน ซึ่งรับมอบเมื่อวันที่ 15 ก.ค.44 โดยกัปตันที่ 1 มีประสบการณ์ทำการบิน 19 ปีในเครื่องบิน ATR โดยตัวเครื่องบินได้ทำประกันภัยไว้กับ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด มูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการประกันภัยครอบคลุมทั้งทรัพย์สินและขีวิต
"สาเหตุการลื่นไถลของเครื่องบินอยู่ระหว่างตรวจสอบของกรมการขนส่งทางอากาศ ก็คาดว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจึงจะทราบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้" นายวุฒิพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เชื่อมั่นว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์สมีประสิทธิภาพดำเนินงานและมีความปลอดภัยสูงสุด โดยบางกอกแอร์เวย์สมีเครื่องบิน ATR ทั้หงมด 9 ลำ รวมลำที่ประสบเหตุ
"ผมยังมีความมั่นใจว่าเรามีมาตรการที่ดี มาตรการรักษาความปลอดภัยสูงที่สุดสายการบินหนึ่ง หลังจากนี้เราก็ต้องให้กรมการขนส่งทางอากาศมาดูว่าอุบัติเหตุเกิดจากอะไรก่อนเพื่อหาสาเหตุ และเราจะแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ" นายวุฒิพงศ์ กล่าว
ด้านนายวุฒิชัย สิงหมณี รองอธิบดีกรมขนส่งทางอากาศ(ขอ.)เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ของหอบังคับการบินที่สมุยแล้ว พบว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสภาพอากาศให้แก่นักบินได้ทราบก่อนที่จะนำเครื่องลงว่าลมมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางและความเร็วตลอดเวลา แต่ทั้งนี้การตัดสินใจจะนำเครื่องลงจอดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนักบินที่ 1
"ทางหอบังคับการได้แจ้งสภาพอากาศให้นักบินทราบว่าอากาศแปรปรวนตลอด และทิศทางลมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา"นายวุฒิชัย อ้างคำพูดของ จนท.หอบังคับการบิน แต่ระบุว่าสภาพอากาศดังกล่าวไม่ได้เป็นความเสี่ยงว่าจะเกิดวินเชียร์ หรือภาวะลมเปลี่ยนแปลงทิศทางอย่างรวดเร็วแต่อย่างใด
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณสนามบินสมุยเป็นการด่วนแล้ว เพื่อประมวลสถานการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะทราบสาเหตุเบื้องต้น
อย่างไรก็ดี สนามบินสมุยในขณะนี้ยังคงปิดให้บริการชั่วคราวจนกว่าจะมีการตรวจสอบจนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วถึงจะเปิดให้บริการได้ตามปกติ และมีรายงานล่าสุดว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อช่วยชีวิตนักบินที่ 2 ออกมาได้แล้ว หลังจากใช้ความพยายามนานกว่า 2 ชั่วโมง