ชาวโตเกียวต่างตื่นตระหนกกับเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นมาแล้วถึง 3 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์ โดยเกรงว่าอาจเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในรอบ 86 ปี นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่เกิดธรณีพิบัติเมื่อปี 2466 ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 142,000 ราย
บลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์ ตามด้วยแผ่นดินไหว 6.4 ริกเตอร์ในวันที่ 11 ส.ค. ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียวซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 125 ราย ขณะที่บ้านเรือนเสียหาย 5,386 หลัง และเมื่อวานนี้เกิดแผ่นดินไหวอีก 6.6 ริกเตอร์ ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนในอาคารที่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวหลายแห่ง
สถาบันวิจัยด้านแผ่นดินไหวของรัฐบาลญี่ปุ่นเตือนว่า มีความเป็นไปได้ถึง 87% ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ภายในช่วง 30 ปีข้างหน้า ซึ่งหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้เรียกประชุมคณะทำงานฉุกเฉินครั้งแรกในรอบ 30 ปี เพื่อประเมินสถานการณ์แผ่นดินไหวและทบทวนข้อมูลเพื่อตรวจสอบถึงความเชื่อมโยงกับเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว
ด้านพนักงานชาวญี่ปุ่นวัย 25 ปีที่อาศัยกับพ่อแม่ของเธอในเมืองโยโกฮามาใกล้กับกรุงโตเกียวกล่าวว่า "ประชาชนจำนวนมากต่างวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ และครอบครัวของเรามักจะกางแผนที่เพื่อดูว่าเราจะหนีไปที่ไหนได้บ้างในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ นอกจากนี้ เรายังมีชุดดำรงชีพฉุกเฉินเตรียมพร้อมไว้และวางแผนที่จะเก็บปัจจัยดำรงชีพสำรองเพิ่มเติมด้วย"
ซาโตชิ โอทซึกะ โฆษกของอิออน โค ซึ่งเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดขายชุดอุปกรณ์ดำรงชีพปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ความต้องการชุดอาหารแห้งที่ Maxvalue Tokai Co เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า