ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจ ระบุรัฐบาลชุดปัจจุบันบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ผิดธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาแต่ในอดีต กรณีการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ซึ่งอาจทำให้เกิดความแตกแยกภายในองค์กรและมีผลประโยชน์แอบแฝง
"(การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.)ผิดธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาตั้งแต่สมัยยังเป็นกรมตำรวจจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ความจริงการไปปฏิบัติหน้าที่ที่ภาคใต้ของ ผบ.ตร.นั้นสามารถเดินทางไปเช้า-เย็นกลับก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตั้งรักษาราชการแทน การกระทำของรัฐบาลก่อให้เกิดความสับสนและแตกแยกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ" พล.ต.อ.วิรุฬ พื้นแสน ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าว
พล.ต.อ.วิรุฬ กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็น ก.ตร.มาก่อน เห็นว่าการบริหารราชการของสตช.ภายใต้การควบคุมของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนผบ.ตร.นั้นผิดปกติ และน่าจะมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝง โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายภายใน สตช.ที่มีการเข้าไปแทรกแซง
ในส่วนของตำแหน่งประธาน ก.ตร.นั้นปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเป็นโดยตำแหน่ง ไม่สามารถมอบหมายให้คนอื่นทำหน้าที่แทนได้ นายอภิสิทธิ์กลับแต่งตั้งนายสุเทพเป็นแทน ซึ่งขัดต่อระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2540 จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสุดท้ายเมื่อนายสุเทพทำไม่ถูกใจนายอภิสิทธิ์จึงเข้าไปล้วงลูกเอง
พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกของข้าราชการตำรวจดีว่าอึดอัดที่ต้องปฏิบัติงานกับรัฐบาลชุดนี้ และรู้สึกหวั่นเกรง ขาดความเชื่อมั่นในการทำตามกฎหมายและอำนวยความยุติธรรม เสียขวัญ เสียกำลังใจ เพราะมีการล้วงลูก ก้าวก่าย ทำลายขนบธรรมเนียมประเพณี ให้ ผบ.ตร.ลงไปปฏิบัติหน้าที่ภาคใต้โดยไม่ระบุหน้าที่ที่ชัดเจน ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น น่าจะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง
"ไม่ใช่ไปข่มขวัญข้าราชการตำรวจจนหวาดกลัวแล้วก็ยัดโผลงไปตรงนั้นตรงนี้ เอาคนที่ไม่เหมาะสมมา เอาพวกตัวเองมาเพื่อเตรียมไว้เผื่อมีการเลือกตั้ง ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งจะทำให้ระบบคุณธรรมเลวลง ประชาชนก็จะไม่ได้รับความยุติธรรม" พลต.ท.ชัชจ์ กล่าว
และในทำนองเดียวกันวันนี้นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนประเทศฟิลิปปินส์ ได้มอบหมายให้นายสุเทพรักษาราชการแทน แต่นายสุเทพก็เดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแล้วแบบนี้จะแต่งตั้งใครรักษาราชการแทนอีก
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่า การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.น่าจะมีนัยทางการเมืองแอบแฝงซ่อนเร้น เพราะ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี นั้นมีความสนิทสนมเป็นที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และเงินที่ได้รับจาก กกต.อีก 29 ล้านบาทหรือไม่ และอาจมีการแอบแฝงซ่อนเร้นถึงการโยกย้ายข้าราชการตำรวจทั่วประเทศเกือบ 1.05 แสนตำแหน่งด้วย
"วันนี้ ผบ.ตร.กลายเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนไปแล้ว ไม่รู้ว่าต่อไปหากนายกฯ ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดจะต้องตั้งรักษาราชการแทนเหมือนกันหรือไม่ วันนี้สิ่งที่นายกฯ ควรทำกลับไม่ทำ แต่ไปทำในเรื่องที่ไม่ควรทำ" นายพร้อมพงศ์ กล่าว