กรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนส่วนใหญ่ถึง 66.6% ไม่เห็นด้วยที่จะมีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำผิดเนื่องในการชุมนุมในระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-3 ธ.ค.51 และ วันที่ 26 มี.ค.-14 เม.ย.52 โดยให้เหตุผลว่า ไม่ควรมีใครอยู่เหนือกฎหมาย และคนทำผิดจะได้ใจ ถือเป็นการช่วยเหลือคนบางกลุ่มที่ความสร้างเดือดร้อนเสียหายแก่ส่วนรวม ซึ่งจะเป็นประเด็นให้เกิดความขัดแย้งตามมา รวมทั้งเชื่อว่าเรื่องนี้มีผลประโยชน์แอบแฝง
ขณะที่อีก 33.4% เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า เพื่อสร้างความสมานฉันท์ ทำให้บ้านเมืองสงบสุข ให้ความยุติธรรมกับผู้กระทำผิดทุกฝ่ายโดยไม่เลือกปฏิบัติ คนไทยด้วยกันควรอภัยให้กันและอยากให้มาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่
สำหรับผู้ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ มากที่สุด จากความเห็นของผู้ที่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นี้ พบว่า 66.7% เห็นว่าประชาชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด รองลงมาเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, พรรครัฐบาล และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ขณะที่ความเห็นของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นี้ พบว่า 22.1% เห็นว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะได้รับประโยชน์มากที่สุด รองลงมาคือ กลุ่ม นปช. และพรรครัฐบาล
ทั้งนี้ ผลที่น่าจะเกิดขึ้นหาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ผ่านเป็นกฎหมายออกมามีผลบังคับใช้นั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 62.5% มองว่าจะเป็นการจุดชนวนและก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมตามมา ขณะที่ 37.5% กลับมองว่าจะช่วยลดความขัดแย้ง และสร้างความปรองดองสมานฉันท์ภายในชาติ
ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 1,206 คน แบ่งเป็นเพศชาย 49.4% และเพศหญิง 50.6% เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา