นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวลกับปัญหาการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)คนใหม่ แทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนก.ย.52 โดยระบุว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร.อาจต้องเลื่อนระยะเวลาออกไปเล็กน้อยจากเดิมที่เคยกำหนดไว้ว่าต้องแล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.นี้ แต่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหา เพราะกระบวนการในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.จะเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้
"พี่น้องประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล อาจต้องใช้เวลายาวกว่าที่ผมคิดนิดหนึ่ง แต่สิ่งที่ผมต้องการให้เกิดขึ้นก็เพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจเอง และพี่น้องประชาชน ผมมุ่งมั่นเดินหน้าเต็มที่ และเชื่อว่าจะก้าวพ้นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ได้" นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์ ซึ่งวันนี้มีการออกอากาศล่าช้าไปถึง 2 ชม.เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคในการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ NBT
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันเจริญ จเรตำรวจแห่งชาติ ขึ้นเป็นผบ.ตร.คนใหม่ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ตช.)เพียงชื่อเดียวนั้น เป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง เพราะตามกฎหมายระบุให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานก.ตช.เสนอชื่อเพื่อให้คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ หากเสนอหลายชื่อก็จะไม่ใช่การให้ความเห็นชอบแต่จะเป็นการคัดเลือกซึ่งผิดจากวัตถุประสงค์ของข้อกฎหมาย
"ตามกฎหมายปัจจุบันที่ใช้ถ้อยคำว่าเป็นเรื่องที่คณะกรรมการ(ก.ตช.)ให้ความเห็นชอบ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนคัดเลือกชื่อ(ผบ.ตร.) ที่หมายความว่าเสนอไปเพื่อขอความเห็นชอบ ถ้าเสนอหลายชื่อจะไม่เรียกว่าเห็นชอบ แต่จะเรียกว่าเป็นการคัดเลือกหรือเรียกว่าเป็นการเลือกตั้ง กระบวนการคัดเลือกเป็นหน้าที่ของผมในฐานะนายกฯ" นายอภิสิทธิ์ ระบุ
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า การคัดเลือกรายชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผบ.ตร.คนใหม่ เพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ก.ตช.นั้น ไม่ใช่การเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ แต่ได้สอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการตำรวจที่พบว่ามีหลายคนที่มีคุณสมบัติจะทำหน้าที่ดังกล่าวได้และได้เชิญมาแสดงวิสัยทัศน์ไปบ้างแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องการเห็นคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)จะต้องมีบทบาทในการรักษากฎหมายและดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยเป็นที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในยามที่ประเทศมีปัญหามากในเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ตลอดจนปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ
"สิ่งที่ผมต้องการ คือทำอย่างไรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก้าวสู่การเป็นตำรวจอาชีพ ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมามีการเมืองเข้าไปแทรกแซง คุณธรรมในตำรวจได้รับผลกระทบรุนแรง เพราะฉะนั้นบุคคลที่ผมเสนอชื่อต้องมีคุณสมบัติ 2 อย่าง อย่างแรกทำให้ความขัดแย้งภายในลดลง เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับและสามารถประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย รวมทั้งต้องได้รับการยอมรับเรื่องความเป็นกลางทางการเมือง สามารถเดินหน้าคดีต่างๆ ได้อย่างตรงไปตรงมา" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม ก.ตช.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแม้จะยังมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าทำงานต่อไปเพื่อเฟ้นหาตัว ผบ.ตร.ที่คิดว่ามีคุณสมบัติดังที่กล่าวไปแล้ว เพื่อให้ สตช.เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ และที่สำคัญสามารถสนองนโยบายของรัฐบาลในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพ