สภากาชาดจีนและกระทรวงสาธารณสุขจีนเปิดตัวโครงการบริจาคอวัยวะในมณฑลนำร่อง 10 มณฑล ได้แก่ มณฑลเหลียงหนิง เจอเจียง ชานตง กวางตุ้ง เจียงซี และเมืองเทียนจิน เซี่ยงไฮ้ เซียะเหมิน นานจิง และวูฮาน โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้มีการปลูกถ่ายอวัยวะได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการซื้อขายอวัยวะผิดกฎหมาย รวมทั้งความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการนำอวัยวะส่วนใหญ่มาจากนักโทษประหาร
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนจะจัดตั้งระบบการลงทะเบียนสำหรับผู้บริจาคและระบบการจัดส่งอวัยวะให้กับผู้รับ เพื่อส่งเสริมให้มีการบริจาคอวัยวะ ทางด้านหวาง เจียฟู รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขจีน กล่าวว่า จีนควรจะจัดตั้งระบบการบริจาคโดยเร็วที่สุดเพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขในประเทศและหลักจริยธรรมสากล จีนยังจำเป็นที่จะต้องสร้างความมั่นใจเรื่องคุณภาพของการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ กำจัดการซื้อขายอวัยวะ และการท่องเที่ยวเพื่อการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ รวมทั้งจดทะเบียนผู้บริจาคมากขึ้น และคุ้มครองสิทธิของผู้บริจาค
เมื่อปีที่แล้ว มีการเปลี่ยนถ่ายไตจำนวน 86,800 ราย ตับ 14,643 ราย หัวใจและปอด 882 ราย และอวัยวะอื่นๆอีกกว่า 220 รายในจีน โดยเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า จีนจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่านอวัยวะ 1.5 ล้านรายต่อปี แต่สามารถดำเนินการได้เพียง 10,000 รายเท่านั้น เนื่องจากจีนขาดแคลนอวัยวะอย่างหนัก
ทั้งนี้ สถาบันการแพทย์ทั่วประเทศของจีนมีใบอนุญาตในการปลูกถ่ายอวัยวะ 164 แห่ง
รัฐบาลจีนได้ทำการทบทวนในเรื่องนี้ หลังจากที่มีรายงานออกมาว่า โรงพยาบาลบางแห่งได้เปลี่ยนถ่ายอวัยวะแบบผิดกฎหมายให้กับชาวต่างชาติ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะถูกถอนใบอนุญาต