เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง รายงานผลการวัดเรตติ้งรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค.52 และความรู้สึกต่อรายการฯ พบว่า มีประชาชน 86.1% ไม่ได้รับชม รับฟังติดตามดังกล่าว แต่จากประมาณการจำนวนผู้ชมที่นั่งหน้าจอโทรทัศน์และผู้ฟังวิทยุ และผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ได้ติดตามถ่ายทอดสดรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์นานเกินกว่า 5 นาที มีจำนวนทั้งสิ้น 5.8 ล้านคนทั่วประเทศ
โดยความน่าสนใจของรูปแบบรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยฯ " ที่ได้นำเสนอไปในวันนี้ ส่วนใหญ่เห็นว่าน่าสนใจ และเนื้อหาสาระที่นำเสนอในรายการในวันนี้เป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
สำหรับประเด็นพูดคุยในรายการที่ชื่นชอบคือเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน รองลงมาเป็นเรื่องการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายใน และประเด็นที่เกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรม
ส่วนความคิดเห็นของประชาชนเมื่อได้ยิน/ได้ฟังนายกรัฐมนตรีชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียงนั้นพบว่า ส่วนใหญ่ 61.5% ระบุเชื่อนายกรัฐมนตรีที่ชี้แจงว่าเป็นการตัดต่อคลิปเสียง ในขณะที่ 34.6% ไม่เชื่อ
อย่างไรก็ตาม ความพึงพอใจของประชาชนต่อความพยายามของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาวิกฤติต่างๆ ของประเทศส่วนใหญ่ ค่อนข้างพอใจถึงพอใจมากที่สุด โดยคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อนายกรัฐมนตรีอยู่ที่ 6.36 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน
นายนพดล กรรณิการ์ ผู้อำนวยการ เอแบคโพลล์ กล่าวว่า ผลวิจัยครั้งนี้สะท้อนความรู้สึกของประชาชนต่อรายการที่เห็นว่าได้รับประโยชน์และมีผลในการรักษาฐานสนับสนุนทางการเมืองต่อนายกรัฐมนตรีอีกด้วย บางรายที่เป็นแฟนรายการถึงกับบอกว่ารอดูรายการนายกรัฐมนตรีก่อนไปทำธุระนอกบ้าน และบางรายบอกว่าแม้จะมีงานสำคัญต้องทำนอกบ้านเช่น ตามไร่ สวน หรือค้าขาย ก็นำวิทยุติดตัวไปฟังด้วย
นอกจากนี้ แฟนรายการบางรายในเขตเมืองที่พลาดจากการชมถ่ายทอดสด ก็จะติดตามย้อนหลังทางอินเตอร์เนต และสนใจติดตามจากข่าวโทรทัศน์ช่องอื่นๆ แทน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ติดตามชมรายการเชื่อมั่นประเทศไทย ให้ความสำคัญและชื่นชอบประเด็นที่เกี่ยวกับปัญหาปากท้องมากกว่าเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม แต่นายกรัฐมนตรีคงต้องชี้ให้สาธารณชนเห็นความสำคัญของคุณธรรมและจริยธรรมอย่างต่อเนื่องต่อไปและน่าจะยกตัวอย่างเป็นอุทาหรณ์ที่ใกล้ตัวและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนประกอบ
ทั้งนี้ เอแบคโพลล์ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนจาก 17 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 1,127 ครัวเรือน เมื่อวันที่ 30 ส.ค.52