นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือน ก.ค.52 พบว่าประชากรวัยแรงงานมีงานทำเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ ประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปจำนวน 52.85 ล้านคน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน 39.29 ล้านคน มีงานทำ 38.79 ล้านคน มีผู้ว่างงาน 4.8 แสนคน และ ผู้รอฤดูกาล 20,000 คน ส่วนผู้อยู่นอกกำลังแรงงาน มีจำนวน 13.56 ล้านคน
สำหรับผู้มีงานทำเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.9 แสนคน คิดเป็น 1.5% โดยภาพรวมมีจำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น แต่บางสาขามีลดลง โดยเฉพาะผู้มีงานทำในภาคเกษตกรรม ลดลง 90,00 คน และผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรม เพิ่มขึ้น 6.8 แสนคน
จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้นอยู่ในสาขาการโรงแรม ภัตตาคารมากที่สุด 2.6 แสนคน รองลงมา เป็นสาขาขายส่งและขายปลีก 1.8 แสนคน สาขาบริหารราชการแผ่นดิน 80,000 คน สาขาอสังหาริมทรัพย์ฯ ธุรกิจให้เช่า 70,000 คน สาขาขนส่ง 30,000 คน สาขาการผลิต 20,000 คน ส่วนสาขาที่ลดลงเป็นสาขาก่อสร้าง 60,000 คน
สำหรับผู้ทำงานอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบปี แต่เป็นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งยังพบว่าอุตสาหกรรมย่อยของการผลิตต่างๆ ที่สำคัญ ยังมีจำนวนผู้ทำงานลดลง ได้แก่ การผลิตเครื่องแต่งกาย 1.1 แสนคน การผลิตอุปกรณ์และเครื่องอิเล็กทรอนิคส์ 54,000 คน การผลิตยานยนต์ 49,000 คน การฟอกและตกแต่งฟอกหนัง 26,000 คน และการผลิตเคมีภัณฑ์ 26,000 คน
หากพิจารณาชั่วโมงทำงาน/วันของผู้มีงานทำ พบว่าผู้มีงานทำส่วนใหญ่ ทำงาน 7 ชั่วโมง/วันขึ้นไป ซึ่งถือเป็นผู้ทำงานเต็มชั่วโมงทำงาน มีจำนวน 33.18 ล้านคน คิดเป็น 85.5% ของผู้มีงานทำ ส่วนผู้ทำงานน้อยกว่า 7 ชั่วโมง/วัน มีจำนวน 5.61 ล้านคน คิดเป็น 14.5%
สำหรับผู้ว่างงานมีทั้งสิ้น 4.8 แสนคน ลดลง 10,000 คน หรือ 0.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีผู้ว่างงานลดลง 70,000 คน เมื่อเทียบเดือน มิ.ย.52 คิดเป็น 0.2% โดยจำนวนผู้ว่างงานเคยทำงานมาก่อน 3 แสนคน ส่วนหใญ่มาจากภาคการผลิตมากที่สุด 1.4 แสนคน รองลงมาเป็นภาคบริการและการค้า 1.3 แสนคน ภาคเกษตรกรรม 30,000 คน และมีผู้ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.8 แสนคน
การว่างงานในแต่ละกลุ่มอายุ พบว่ากลุ่มเยาวชน หรือผู้มีอายุ 15-24 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราการว่างงานสูงที่ 4.6% ส่วนกลุ่มวัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้นไป มีอัตราการว่างงาน 0.7% และระดับการศึกษาของผู้ว่างงาน พบว่า ผู้จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีอัตราการว่างงานมากที่สุด 2.7% รองลงมาเป็นผู้จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลาย
หากพิจารณาการว่างงานเป็นรายภาค พบว่า ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภาคที่มีจำนวนผู้ว่างงานมากที่สุด 1.2 แสนคน รองลงมาเป็น ภาคเหนือ 1.1 แสนคน ภาคใต้ 70,000 คน และกทม. 50,000 คน และหากเปรียบเทียบอัตราการว่างงานเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เกือบทุกภาคมีอัตราการว่างงานลดลง