- ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีนัดลงมติ 2 เรื่องสำคัญ คือ กรณี 44 ส.ส.ถือครองหุ้นในกิจการที่รับสัมปทานรัฐและหุ้นกิจการสื่อ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 และ 265 และสำนวนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นของนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 และ 269
- ส่วนที่ประชุมร่วมรัฐสภา เตรียมพิจารณาร่างกรอบการเจรจาเพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในกรอบของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา และกลไกอื่นๆ ภายใต้กรอบนี้ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งประธานรัฐบาลได้สั่งเลื่อนพิจารณาจากวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอภิปรายโต้เถียงกันอย่างรุนแรง
- และช่วงบ่ายที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้องของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่ขอให้วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ที่ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 2 และ วาระที่ 3 มีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายที่ไม่มีรายละเอียดของโครงการชัดเจนอาจเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 168 วรรคเจ็ด ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งนัดไต่สวน โดยให้นายสุรพงษ์ ในฐานะผู้ร้อง และตัวแทนจากกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ผู้ถูกร้อง เข้าชี้แจงข้อมูล
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--