นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลพยายามจะดำเนินการให้ทุกภาคส่วนในสังคมซึ่งมีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยเตรียมจะเสนอให้ใช้รัฐสภาเป็นเวทีแก้ไขรัฐธรรมนูญ
"เราไม่สามารถทำให้ทุกคนมีความคิดเห็นทางการเมืองที่ตรงกันได้ ความแตกต่างทางความคิดเราสามารถมีได้ แต่อยากให้ทุกคนยึดเสมอว่า ทุกคนจะต้องปกป้องสถาบันของชาติเป็นหลัก และรัฐบาลจะเร่งศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว" นายอภิสิทธิ์ กล่าวในการแสดงยุทธศาสตร์ชาติของนักศึกษา วปอ.ประจำปี 2551-52
สำหรับยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงที่มุ่งเน้นให้ภาครัฐปฏิบัติการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ก่อความไม่สงบ ขยายกำลังเจ้าหน้าที่ให้เต็มพื้นที่ ควบคุมพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียเพื่อตัดช่องทางสนับสนุนจากภายนอก พร้อมทั้งกดดันเพื่อสลายแกนนำผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่
พร้อมกันนี้ในด้านพัฒนาก็จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลเป็นการเฉพาะขึ้นมาเร่งรัดสะสางคดีที่คั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งจัดตั้งหน่วยงานปฏิบัติการด้านการข่าวระดับชาติ, ประชาสัมพันธ์ให้องค์กรมุสลิมทั่วโลกเข้าใจถึงแนวนโยบายของรัฐบาล, ดึงผู้นำศาสนาในชุมชนที่มีต้นทุนเป็นบวกเข้ามามีส่วนช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา
ส่วนด้านการเมืองนั้นอยากให้มีการกำหนดเกณฑ์ให้ผู้ที่ต้องการรับตำแหน่งทางการเมืองทุกระดับต้องผ่านการอบรมเกี่ยวกับบทบาทและอำนาจหน้าที่ การบังคับใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญกับนักการเมืองทุกระดับหากฝ่าฝืนให้ตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี
ด้านเศรษฐกิจเสนอให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วยการวางแผนพัฒนาและสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชน เร่งรัดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทุกสัมปทาน ส่งเสริมการทำเหมืองและใช้ถ่านหินโดยใช้เทคโนโลยีสะอาด ออกประกาศและวางระเบียบขั้นตอนการลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวีให้สอดคล้องกับกลไกตลาด กำหนดเป้าหมายการผลิตและใช้เอทานอลและไบโอดีเซลให้ชัดเจน และส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล