พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุจะไม่ปล่อยให้เครือข่ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำประชาชนเข้าไปในพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร เพื่อขับไล่ทหารและชาวกัมพูชาให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวตามที่ได้ประกาศไว้ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยจะสร้างแนวกันกลุ่มผู้ชุมนุมไว้ที่บริเวณด้านล่าง
ทั้งนี้ นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ในฐานะเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรฯ ได้นัดประชาชนท่ชุมนุมที่ อ.กันทรลักษณ์ เพื่อเดินทางไปชุมนุมขับไล่ทหารและชาวกัมพูชาให้ออกจากพื้นที่พิพาท
ด้าน พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3(ผบช.ภ.3) กล่าวว่า ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลและชุดควบคุมฝูงชนใน จ.ศรีสะเกษ และจังหวัดใกล้เคียง จำนวน 200 นาย ไปประจำการบนพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ร่วมกับกำลังทหาร เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เพราะอาจได้รับอันตรายหากเกิดการกระทบกระทั่งกับชาวกัมพูชา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้
ขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ในช่วงที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณอุทยานแห่งชาติปราสาทเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นตรงกันที่จะใช้วิธีการเจรจาโดยสันติเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเขตแดน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาอยู่ระหว่างเริ่มสำรวจ
"รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยต้องเข้าไปทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริง ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อปกปักรักษาอธิปไตยโดยวิธีการที่เหมาะสมที่สุด ไม่มีเรื่องหนึ่งเรื่องใดทับซ้อนหรือแอบแฝง" นายชวนนท์ กล่าว
เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมครั้งนี้ควรเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอาจยังมีกับระเบิดที่กู้ไม่หมดหลงเหลืออยู่ซึ่งอาจทำให้ได้รับอันตราย