มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ (International Osteoporosis Foundation: IOF) เผยรายงานล่าสุดระบุ โรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่มีความร้ายแรงและกำลังสร้างปัญหามากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย
โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า โรคกระดูกพรุนทำให้ผู้ป่วยในเกือบทุกประเทศในเอเชียเกิดอาการกระดูกสะโพกหักเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ 50% ของอาการกระดูกหักทั่วโลกเกิดขึ้นในเอเชียภายในปี 2593
นอกจากนี้ รายงานยังเผยให้เห็นว่าตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการกระดูกสะโพกหักเพิ่มขึ้นถึง 300% ในฮ่องกง และพุ่งสูงถึง 500% ในสิงคโปร์ ส่วนในญี่ปุ่นจำนวนการเกิดกระดูกหักในอวัยวะต่างๆ ในผู้สูงวัยอายุเกิน 75 ปีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ส่วนในจีนแผ่นดินใหญ่มีประชากรอายุเกิน 50 ปีเกือบ 70 ล้านคนที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคกระดูกพรุน ซึ่งก่อให้เกิดอาการกระดูกสะโพกหักมากถึง 687,000 รายต่อปี ซึ่งโรคร้ายนี้ได้ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรักษาอย่างมหาศาลทั่วภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้ ทาง IOF ได้ออกมาระตุ้นเตือนให้ภาครัฐของทุกประเทศดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันมิให้จำนวนผู้ป่วยกระดูกหักเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจต่อชาวเอเชียหลายล้านคน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท เพราะในขณะนี้โรคกระดูกพรุนมีความรุนแรงมากแต่กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร