อัยการนำตัวอดีตประธาน กกต.ส่งฟ้องคดีออกระเบียบขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง

ข่าวทั่วไป Thursday September 24, 2009 12:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อายุ 68 ปี อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4

คำฟ้องโจทก์ระบุว่า พล.ต.อ.วาสนา, พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ, นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร ซึ่งเป็นอดีต กกต.ที่โจทก์ยื่นฟ้องเรื่องเดียวกันนี้ต่อศาลไปแล้ว พร้อมทั้งนายจรัล บูรณะพันธุ์ศรี อดีต กกต.ซึ่งเสียชีวิตแล้ว เป็นกรรมการในหน่วยงานของรัฐตามมาตรา 4 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.ฯ และตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.พ.ศ.2541 ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต

เมื่อวันที่ 16 ส.ค.47 กกต.มติเห็นชอบร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษของประธานกรรมการ และ กกต.พ.ศ.2547 และให้ พล.ต.อ.วาสนา ซึ่งเป็นประธาน กกต.ในขณะนั้นออกระเบียบดังกล่าว เพื่อกำหนดเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ลักษณะเหมาจ่ายเป็นรายเดือนให้กับจำเลยกับพวกเดือนละ 20,000 บาท โดยให้ใช้บังคับย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.47 ทั้งที่จำเลยทั้งสองกับพวกไม่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าวโดยชอบด้วยกฎหมาย

ต่อมาได้มีการแก้ไขระเบียบจากเดิมที่ระบุว่า"ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.47 เป็นต้นไป"เป็น "ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.47 เป็นต้นไป" กระทั่งวันที่ 28 ก.ย.47 จำเลยกับพวกได้อาศัยระเบียบดังกล่าวรับเงินค่าตอบแทนไปจากสำนักงาน กกต.คนละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 100,000 บาท ต่อมาจำเลยกับพวกทั้งหมดได้ส่งเงินคืนต่อสำนักงาน กกต. ขณะที่ในชั้นไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.จำเลยให้การปฏิเสธ

โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย และนับโทษจากคดีที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุกจำเลยในคดีทุจริตจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 49 รวม 2 สำนวน รวม 6 ปี โดยศาลได้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณาแล้ว และขณะนี้ พล.ต.อ.วาสนา อยู่ระหว่างยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอประกันตัวต่อศาล

ส่วนการดำเนินคดีกับอดีตตุลาการศาลรัฐธรรม 13 คน ชุดที่มีนายกระมล ทองธรรมชาติ เป็นประธาน และคณะผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาอีก 3 คน ชุดที่มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร เป็นประธาน ซึ่งอัยการสูงสุดมีความเห็นให้สั่งฟ้องนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างแจ้งหมายให้มารายงานตัวกับอัยการเพื่อนำตัวมายื่นฟ้องต่อศาลอาญาต่อไป

สำหรับกรณีออกระเบียบเพื่อขึ้นเงินเดือนตัวเองนั้น ก่อนหน้านี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาให้จำคุกประธานกรรมการ และกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ชุดที่มี พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ เป็นประธาน เป็นเวลาคนละ 2 ปี ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ