ศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้องและให้จำหน่ายคดีความออกจากระบบ ในกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ยื่นฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)หลังจากที่ ป.ป.ช.วินิจฉัยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานทำร้ายประชาชนจากการสั่งการให้สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51
ทั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำวินิจฉัยและชี้มูลความผิดต่อ ป.ป.ช. และเพิกถอนมติของ ป.ป.ช.ที่ได้ประชุมรับรองมติเรื่องการวินิจฉัยและชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.52 รวมทั้งให้ ป.ป.ช.ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 50 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย และขอให้ศาลฯ มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจนกว่าจะพิพากษาคดี
อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองกลางได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลว่า พล.ต.อ.พัชรวาท กระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และฐานละเว้นการกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาตินั้น ไม่ได้มีผลทางกฎหมายไปกระทบกระเทือนต่อสิทธิหรือหน้าที่ของ พล.ต.อ.พัชรวาท หรือก่อความเสียหายหรือเดือดร้อนโดยตรง ดังนั้นพล.ต.อ.พัชรวาท ในฐานะผู้ฟ้องคดีจึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ศาลปกครองพิพากษาหรือมีคำสั่งให้เพิกถอนมติของ ป.ป.ช.ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีในกรณีนี้ได้
จากเหตุผลข้างต้น ศาลฯ จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีความออกจากสารบบความ กรณีนี้จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยคำขอของ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวอย่างใด เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา และให้คืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดให้แก่ผู้ฟ้องคดี