นายคำมุ่ย แก้วมะนี ประธานคณะอนุกรรมการการตลาดและสิทธิประโยชน์ และประธานบริษัท เพชรจำปา แอ๊ดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ยอดรวมเรื่องสิทธิประโยชน์อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเกินเป้าหมาย เพราะเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (175,000,000 บาท)
"ต้องขอบคุณบริษัทของไทยหลายแห่งที่เข้ามาช่วยเหลือด้วยมิตรภาพ บ้านพี่เมืองน้อง เนื่องจากลาวเป็นประเทศเล็ก การหาสปอนเซอร์จึงค่อนข้างยาก"นายคำมุ่ย กล่าว
ส่วนกรณีลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดนั้นขอยืนยันว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันของลาว มีสิทธิในการที่จะขายลิขสิทธิ์ให้แก่ชาติสมาชิกตามมติของคณะมนตรีซีเกมส์ และที่ผ่านมา บริษัท เพชรจำปา จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสิทธิได้ประสานไปยังคณะกรรมการโอลิม ปิกแต่ละชาติว่าจะเลือกหน่วยงานใดภายในประเทศของตนมาดำเนินการก็ขอให้แจ้ง กลับมา โดยได้แจ้งไปตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว แต่มีตอบกลับมาเพียงแค่ 2 ชาติ คือ กัมพูชา กับ เวียดนาม เท่านั้น ดังนั้นลาวจึงขอใช้สิทธิในการเจรจากับเอกชนโดยตรง เนื่องจากเวลาที่เหลือมีจำกัด ซึ่งกรณีของไทย คือ บมจ.อาร์เอส (RS)
“ผมขอยืนยันว่าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดในการแข่งขันครั้งนี้จะมีการขายอย่างแน่นอน ไม่มีฟรีแต่อย่างใด โดยจะมีการแบ่งรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ให้กับคณะกรรมการโอลิมปิกของแต่ละชาติ ร้อยละ 25 ด้วย ซึ่งในส่วนของไทย ทางบริษัทอาร์เอสฯ ได้ซื้อไปเรียบร้อยแล้วด้วยมูลค่า 11 ล้านบาท และเชื่อว่าอย่างน้อยน่าจะมี 6-7 ชาติที่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในครั้งนี้"นายคำมุ่ย กล่าวยืนยัน
สำหรับความเคลื่อนไหวการเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25"เวียงจันทน์เกมส์"ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) จะเป็นเจ้าภาพจัดในระหว่างวันที่ 9-18 ธ.ค.นี้ ล่าสุดได้มีพิธีลงนามสัญญาผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ระหว่างคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 และบริษัท่ เพชรจำปา จำกัด กับบริษัทไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัทโออิชิ เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือ บมจ. โออิชิ กรุ๊ป (OISHI)
โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด โดยผลิตภัณฑ์ พาวเวอร์ พลัส ให้การสนับสนุนคณะกรรมการฯ ในรูปของเงินสด 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,500,000 บาท) สินค้าและบริการ 700,000 บาท ขณะที่ บริษัท โออิชิ เทรดดิ้ง จำกัด โดยผลิตภัณฑ์โออิชิ-แบล็คอัพ สนับสนุนในรูปเงินสด 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (10,500,000 บาท) สินค้าและบริการ 400,000 บาท รวมการสนับสนุนมีมูลค่าทั้งสิ้น 22,100,000 บาท