ศูนย์เตือนภัยพายุไต้ฝุ่นภายใต้ความร่วมมือของกองทัพเรือสหรัฐเปิดเผยว่า พายุโซนร้อน "ป้าหม่า" และพายุโซนร้อน "เมอโลร์" ได้ก่อตั้งขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก ค่อนไปทางฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์ ซึ่งการก่อตัวของพายุทั้งสองลูกมีขึ้นเพียง 4 วันหลังจากพายุไต้ฝุ่น "กิสนา" ได้คร่าชีวิตประชาชนในเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ไปแล้ว 246 ราย และอีก 38 รายในเวียดนาม
ศูนย์เตือนภัยพายุไต้ฝุ่นฯระบุว่า ณ เวลา 8.00 น.ตามเวลากรุงมะนิลาในวันนี้ พายุโซนร้อนป้าหม่าเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุด 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยเคลื่อนตัวอยู่ห่างจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะยัพในหมู่เกาะไมโครเนเซียราว 156 กิโลเมตร และคาดว่าจะเคลื่อนตัวถึงชายฝั่งของฟิลิปปินส์ในสัปดาห์นี้
ขณะที่พายุเมอโลร์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นและคาดว่าจะกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นในอีก 3 วันข้างหน้านี้ โดยพายุเมอโลร์ซึ่งเป็นพายุโซนร้อนลูกที่ 20 ของฤดูพายุไต้ฝุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิก เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุด 74 กิโลเมตร/ชั่วโมงและอยู่ห่างจากฝั่งตะวันออกของเกาะยัพประมาณ 1,945 กิโลเมตร ทั้งนี้ คาดว่าพายุเมอโลร์จะทวีความรุนแรงขึ้นเป็น 93 กิโลเมตร/ชั่วโมงในวันพรุ่งนี้
ส่วนพายุไต้ฝุ่นกิสนาได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคกลางของเวียดนามตั้งแต่เมื่อวาน ด้วยความเร็วลมสูงสุด 167 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 คน และทำให้ต้องอพยพประชาชนกว่า 360,000 คน อีกทั้งส่งผลให้โรงงานไฟฟ้าแห่งชาติได้รับความเสียหายและทำให้ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้
บลูมเบิร์กรายงานว่า กิสนา (Ketsana) เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งในประเทศลาว ส่วน ป้าหม่า (Parma) เป็นชื่ออาหารชนิดหนึ่งของมาเก๊าที่ทำจากหมูและไก่ และเมอโลร์ (Melor) เป็นชื่อดอกมะลิในภาษามาเลเซีย