ทางการฟิลิปปินส์เตรียมสั่งการอพยพประชาชน ขณะที่มีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นป้าหม่า (Parma) กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากที่พายุโซนร้อนกิสนาได้ซัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในกรุงมะนิลาและคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 277 ราย
ผู้บัญชาการกองทัพในเขตลากูนา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลากล่าวว่า "เราจะสั่งการให้รัฐบาลท้องถิ่นดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งเรามีกองทัพประจำการโดยรอบจุดเสี่ยงพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือที่จำเป็นเช่น เรือยาง"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นป้าหม่าที่มีความเร็วลง 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง (116 ไมล์) ก่อตัวขึ้นเมื่อเวลา 02:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยเริ่มเคลื่อนตัวจากทางตะวันออกของเกาะทาโคลแบน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทาง 816 กิโลเมตร พร้อมมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือที่ความเร็วลง 28 กิโลเมตร/ชั่วโมง และคาดว่าพายุดังกล่าวจะทวีกำลังแรงขึ้น ขณะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์
โจเซ่ เบอร์ซาเลส ผอ.ฝ่ายกิจการฉุกเฉินของมูลนิธิ World Vision Philippines กล่าวว่า "รัฐบาลควรเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทางมูลนิธิได้จัดหาอาหารและความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากพายุกิสนาจำนวน 20,000 ราย
ทั้งนี้ พายุกิสนาที่เข้าถล่มเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดฝนตกหนักใน 6 ชั่วโมง รวมถึงน้ำท่วมกรุงมะนิลาและพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากระดับ 246 รายเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ศูนย์ภัยพิบัติของฟิลิปปินส์รายงานว่ามีประชาชนเกือบ 2.5 ล้านคนได้รับความเดือดร้อนจากพายุลูกนี้ โดยประชาชน 686,699 คนถูกอพยพมาอยู่ที่ศูนย์ป้องกันภัย ขณะที่มีผู้สูญหาย 45 คน
นอกจากนี้ พายุกิสนายังเคลื่อนตัวเข้าถล่มเวียดนามเมื่อ 2 วันก่อนขณะทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นด้วยความเร็วลม 167 กิโลเมตร/ชั่วโมง และได้คร่าชีวิตประชาชนในเวียดนาม 74 ราย ขณะที่อีก 12 รายสูญหาย นอกจากนี้ กัมพูชาเป็นอีกประเทศที่โดนพายุกิสนาเล่นงานจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย