นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์การว่างงานในขณะนี้ถือว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยยอดการว่างงานเดือนส.ค.-ก.ย.52 อยู่ที่ประมาณ 500,000 คน เป็นผลจากเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้สถานประกอบการหลายแห่งโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นนับหมื่นตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราการว่างงานในปีนี้ อยู่ที่ 1.2% หรือคิดเป็นจำนวน 400,000-500,000 คน
ด้านนายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้จัดตั้งสำนักเศรษฐกิจการแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาด้านแรงงานและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครบวงจร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนคัดสรรผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการแรงงาน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนราวปลาย พ.ย.นี้
สำหรับโครงสร้างของสำนักเศรษฐกิจการแรงงาน จะแยกออกมาจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งโครงสร้างประกอบด้วย งานบริหารทั่วไป กลุ่มงานวิจัยและวางแผนกำลังแรงงาน กลุ่มงานเศรษฐกิจแรงานมหภาค ศูนย์ข้อมูลเศรษฐกิจการแรงาน สำนักคณะกรรมการค่าจ้าง และสำนักสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ
สำนักงานเศรษฐกิจการแรงงาน มีหน้าที่ในการศึกษา วิเคราะห์ วิจัยภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ และจัดทำแผนพัฒนากำลังแรงงานในระบบและนอกระบบ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลสถิติด้านแรงงาน เพื่อไม่ให้เกิดการทับซ้อนของข้อมูลเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งทำหน้าที่ในการจัดทำรายงานสถานการณ์ด้านแรงงานรายเดือน รายไตรมาส และรายปี เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน รวมทั้งจัดทำแผนพัฒนาระบบค่าจ้างด้วย