คมนาคมเสนอ ครม.ขออนุมัติงบสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มอีก 3.6 พันลบ.

ข่าวทั่วไป Tuesday October 6, 2009 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแคน ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันนี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติขยายกรอบวงเงินก่อสร้างเพิ่มจากเดิม 48,821 ล้านบาท เป็น 52,460 ล้านบาท หลังจากได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) แล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา

พร้อมกันนั้น จะเสนอให้ ครม.พิจารณาเรื่องที่ รฟม.ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น(ไจก้า)ว่าต้องการให้ รฟม.บรรจุเงื่อนไขอนุญาโตตุลาการไว้ในสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ทั้ง 3 สัญญา โดยการขออนุมัติครั้งนี้ช่วยให้ไม่ต้องยกเลิกมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 ก.ค.52 เพราะมติ ครม.ดังกล่าวระบุว่า หากสัญญาใดมีปัญหาไม่สามารถดำเนินการตามที่มติ ครม.กำหนดให้เสนอกลับมาให้ ครม.พิจารณาเป็นกรณีไป

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์เสนอขอความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ กำหนดความรับผิดสำหรับผู้ซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในงานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สิ่งบันทึกเสียง โสตทัศนวัสดุ หรือภาพยนตร์ และเจ้าของพื้นที่ที่ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นด้วย พร้อมด้วยร่าง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า ซึ่งกำหนดความรับผิดของผู้ซื้อสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและความรับผิดของเจ้าของพื้นที่ที่ขายสินค้าละเมิดดังกล่าวเช่นกัน

ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)ทักท้วงว่า ควรพิจารณาทบทวนเนื่องจากเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ผู้ซื้อในการพิจารณา หรือ ตรวจสอบว่าสินค้าใดเป็นสินค้าละเมิดหรือไม่ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าสูงขึ้นทำให้การแยกแยะกระทำได้ค่อนข้างยาก ซึ่งต้องให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนให้ได้รับทราบ ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ตั้งข้อสังเกตว่าองค์ประกอบความผิดเรื่องเจตนาเห็นควรให้กำหนดเจตนาพิเศษ เพราะผู้กระทำผิดไม่ได้เป็นผู้ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยตรง การให้หลักเจตนาธรรมดาไม่น่าจะเหมาะสม

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เพื่อให้บังคับกับส่วนราชการ และอปท.รวมทั้งให้ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพอย่างทั่วถึง โดยระเบียบดังกล่าวให้ อปท.จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุตามที่ผู้มีสิทธิโดยจ่ายรายเดือน หรือรายสามเดือนต่อครั้งเป็นเงินสด หรือโอนเข้าบัญชีธนาคาร 500 บาท และให้ อปท.สำรวจทุกเดือน ต.ค. และ พ.ย.ของทุกปีเพื่อตรวจสอบสำรวจผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยผู้สูงอายุด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ