นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เผยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟกันตัง-กรุงเทพฯ ตกรางที่สถานีเขาเต่าเมื่อวานนี้(5 ต.ค.) จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมากน่าจะเกิดจากความประมาทของพนักงานขับรถ
"หากพนักงานขับรถไม่ได้หลับในก็น่าจะชะลอความเร็วก่อนเข้าจอดที่สถานีได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องสืบสวนในขั้นตอนพักงานสอบสวนต่อไป" นายยุทธนา กล่าว
ผู้ว่าการ รฟท.กล่าวว่า รถไฟขบวนดังกล่าวต้องจอดรอที่สถานีวังพงเพื่อรับใบเปลี่ยนหลีกก่อนที่จะไปที่สถานีเขาเต่า แต่พนักงานขับรถไม่ได้มีการจอดตามระเบียบ ทำให้มีการฝ่าสัญญาณอาณัติสัญญาณด้วยความเร็วถึง 105-110 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากที่ต้องลดความเร็วเหลือเพียง 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง
"พนักงานฝ่าฝืนสัญญาณและขับฝ่าไฟแดงไปที่สถานีเขาเต่า ขณะที่สถานีเขาเต่าได้เตรียมรางเอาไว้เพื่อให้ขบวนรถสินค้าที่จอดอยู่เข้าไปที่รางที่ 2 เพื่อให้ขบวนรถไฟดังกล่าวเข้ารางหลัก แต่ขบวนรถไฟเข้ามาด้วยความเร็วจนเกินไปทำให้เกิดพลิกคว่ำบริเวณจุดเปลี่ยนสับราง" นายยุทธนา กล่าว
ผู้ว่าการ รฟท.กล่าวว่า ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 130 ล้านบาท ทั้งความเสียหายจากขบวนรถและการสูญรายได้จากการไม่ได้เดินรถและขนส่งสินค้าวานนี้ โดยวันนี้สามารถเดินรถในเส่นทางสายใต้ได้ตามปกติตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รฟท.ได้เสนอมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นให้รัฐบาลพิจารณา 3 ข้อ ได้แก่ 1.การบรรจุนักเรียนวิศวกรรมการรถไฟจำนวน 400 คน เพื่อแก้ไขปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอ 2.ตั้งคณะกรรมการฝ่ายช่าง ฝ่ายเดินรถ พนักงานแขวง เขตเดินรถทั่วประเทศ ให้ลงไปตรวจสอบอุปกรณ์การรถไฟ ไม้หมอนรางรถไฟทั่วประเทศว่ามีความชำรุดเสียหายมากน้อยแค่ไหน เพื่อเสนอของบประมาณในการซ่อมบำรุง และ 3.จัดฝึกอบรมเรื่องจิตสำนึกของความปลอดภัยให้แก่พนักงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถทั้งหมด