นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รับมอบอำนาจจากสมาชิก 250 คนยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)และสำนักนายกรัฐมนตรี(สนร.)ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ทั้ง 2 หน่วยงานร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 71 ล้านบาท
นายนิติธร กล่าวว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งหมดเข้าร่วมชุมนุมโดยปราศจากอาวุธตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อเรียกร้องการมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่รัฐในการปฏิบัติราชการทางปกครองอันจะมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีมีแนวคิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ทั้ง 2 หน่วยงานกลับใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งไม่เป็นไปตามขั้นตอนและวิธีการสลายการชุมนุมและการเข้าควบคุมฝูงชน
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)ว่ามีความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ประกอบกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในขณะนั้นได้ออกแถลงการณ์ประณามเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 หน่วยงานว่า กระทำการขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน เป็นเหตุให้ประชาชนและผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บและเสียหาย
นายนิติธร กล่าวว่า ผู้เสียหายทั้ง 250 คนเห็นว่าทั้ง 2 หน่วยงานได้กระทำการละเมิดจนทำให้ได้รับบาดเจ็บและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา รวมถึงต้องสูญเสียความสามารถในการประกอบการงาน จึงมาขอให้ศาลฯ พิพากษาให้ทั้ง 2 หน่วยงานชดใช้ค่าเสียหายในผลจากการละเมิดที่เกิดขึ้น และภายในเดือน ต.ค.นี้ก็จะฟ้องคดีต่อศาลอาญาเช่นกัน
สำหรับผู้ฟ้องคดีนี้ได้เรียกค่าเสียหายแตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ 5 หมื่นบาท แต่ที่ขอให้ชดใช้มากที่สุดคือ นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ ที่สูญเสียมือข้างขวา ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพวาดภาพได้ เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 16.5 ล้านบาท