ผลสำรวจล่าสุดเผยมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกส่วนมากอยู่ในยุโรป ขณะที่มหาวิทยาลัยจากอเมริกาเหนือติด 100 อันดับแรกน้อยลง
โดยมหาวิทยาลัยในยุโรปติด 100 อันดับแรกรวม 39 แห่งในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 36 แห่งในปีที่แล้ว ส่วนมหาวิทยาลัยจากอเมริกาเหนือติดอันดับลดลงจาก 42 แห่ง เหลือเพียง 36 แห่ง ขณะที่มหาวิทยาลัยในเอเชียเพิ่มขึ้นจาก 14 แห่งเป็น 16 แห่ง
ฮาร์วาร์ด ยังคงครองตำแหน่งมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลก ตามมาด้วยเคมบริดจ์ที่ขยับขึ้นมาจากอันดับ 3 ส่วน เยลรั้งอันดับ 3 ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน กระโดดสามขั้นขึ้นมารั้งอันดับ 4 ขณะที่อ็อกซ์ฟอร์ด หล่นหนึ่งขั้นลงไปรั้งอันดับ 5 ร่วมกับอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน มหาวิทยาลัยชิคาโกอยู่ที่อันดับ 6 พรินซ์ตันอันดับ 7 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) ที่ 8 สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (ซีไอที) ที่ 9 และมหาวิทยาลัยโคลัมเบียรั้งอันดับ 10
ด้านอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจประกอบด้วย มหาวิทยาลัยโตเกียวที่อันดับ 22 ซึ่งถือว่าดีที่สุดในเอเชีย และมหาวิทยาลัยฮ่องกงที่ขยับขึ้นมาสองขั้นรั้งอันดับ 24
ทั้งนี้ ผลสำรวจนี้จัดทำโดย Times Higher Education ซึ่งได้จากการสำรวจนักศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษาจากทั่วโลก โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 6 แล้ว บีบีซีรายงาน