ฟิลิปปินส์ได้สั่งการให้ทางการท้องถิ่นเร่งอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นลูปิตซึ่งคาดว่าจะพัดถล่มประเทศสัปดาห์ที่จะถึงนี้ นับเป็นพายุลูกที่ 3 ต่อจากกิสนาและป้าหม่าที่ส่งผลให้เกิดฝนตกและน้ำท่วมหนักจนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 770 คน
กิลเบิร์ต ทีโอโรโร รมว.กลาโหม กล่าวว่าพร้อมกันนี้ รัฐบาลยังได้จัดส่งอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์อื่นๆไปยังพื้นที่ที่อาจถูกตัดขาดเนื่องจากพายุลูปิต หรือพื้นที่ที่ถูกดินถล่มอันเนื่องมาตากพายุป้าหม่า
"การอพยพล่วงหน้าดีกว่าปฏิบัติการกู้ภัยท่ามกลางความรุนแรงของพายุ" ทีโอโดโรกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มะนิลาเมื่อคืนนี้ พร้อมระบุว่า เหตุพายุป้าหม่าพัดถล่มทำให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุผลของการอพยพหนีภัยล่วงหน้า และทำให้งานง่ายขึ้นเยอะ โดยรัฐบาลมีเวลาอย่างน้อย 2-3 วันในการเตรียมการรับมือพายุลูกใหม่ เพื่อให้มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทั้งนี้ ศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นร่วมของสหรัฐคาดการณ์ว่า ลูปิตจะเคลื่อนตัวผ่านทางตอนเหนือของเกาะลูซอนในวันที่ 21 ต.ค. ด้วยความเร็วลม 231 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ฟิลิปปินส์ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากพายุสองลูกในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ โดยพายุกิสนาได้พัดเข้าตอนกลางของลูซอนเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักครั้งใหญ่สุดในรอบอย่างน้อย 40 ปีที่มะนิลาและจังหวัดโดยรอบ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 337 คนส่วนใหญ่เนื่องจากจมน้ำ รวมถึงพื้นที่เพาะปลูกและสาธารณูปโภคต่างๆได้รับความเสียหายเป็นมูลค่า 1.05 หมื่นล้านเปโซ (225 ล้านดอลลาร์) จากนั้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค. พายุป้าหม่าก็โหมกระหน่ำทางภาคเหนือของลูซอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 433 คน ส่วนใหญ่จากดินถล่ม ขณะที่อีก 51 คนยังคงสูญหาย และประชาชนกว่า 60,000 คนยังไร้บ้านและต้องพักพิงอยู่ที่ศูนย์อพยพ ส่วนนาข้าวและไร่นาอื่นๆ รวมถึงสาธารณูปโภคต่างๆก็ได้รับความเสียหายอีก 1.05 หมื่นล้านเปโซ