สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง "การชุมนุมประท้วง กับการเมืองไทยวันนี้" พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 35.80% เห็นว่าการเมืองไทยยังคงวุ่นวายต่อไปและมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้น ยากที่จะยุติลงได้ รองลงมา เชื่อว่าจะเป็นการแบ่งกลุ่มแบ่งพวก ทำให้เกิดความสมานฉันท์ทางการเมืองได้ยาก
การสำรวจในครั้งนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกมาเตือน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยประชาชนส่วนใหญ่ 29.85% ระบุว่าจะเป็นการจุดกระแสทางการเมืองให้คุกรุ่นขึ้นมาอีก, 25.37% เห็นว่าควรคุยกันเองเป็นการภายในจะดีกว่า, 20.90% มองว่าจะทำให้คนเสื้อแดงและสมาชิกพรรคเพื่อไทยรู้สึกไม่พอใจ, 13.43% เห็นว่าเป็นเรื่องของเพื่อนเตือนเพื่อน และอีก 10.45% เชื่อว่าอาจมีคนบางกลุ่มนำคำพูดของป๋าเปรมมาเป็นข้ออ้างทางการเมือง
สำหรับการชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นจนเป็นความเคยชินแล้ว และมองว่าเป็นสิทธิในการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องอยู่ในกรอบอย่างเหมาะสม ขณะที่ประชาชนบางส่วนมองว่าควรยุติการชุมนุมชั่วคราว แล้วช่วยกันส่งใจให้ในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน
ขณะที่ผลกระทบโดยตรงที่ประชาชนได้รับจากการชุมนุมประท้วง อันดับแรก ระบุว่า ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะบริเวณที่มีการชุมนุม รองลงมา ระบุว่าทำให้ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น ภาพลักษณ์ติดลบ ยังไม่กล้าที่จะลงทุน และอันดับสาม ระบุว่าส่งผลให้การท่องเที่ยวในประเทศไม่คึกคักเท่าที่ควร
ทั้งนี้การจะให้ปัญหาการชุมนุมยุติลงได้นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ 27.03% เห็นว่าควรหันหน้าเข้าหากัน เจรจาอย่างสันติวิธี รองลงมา 24.32% เห็นว่าบ้านเมืองจะสงบได้ขึ้นอยู่กับคนไทยทุกคน และอันดับสาม 20.27% เห็นว่าควรจะนึกถึงความอยู่รอดของบ้านเมืองเป็นสำคัญ
สำหรับผลสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,256 คน ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2552