กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สนับสนุนการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหามลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ของชาวมาบตาพุด และแก้ไขปัญหาการดำเนินการตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.)
"เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลยึดถือคำสั่งของศาลปกครองอย่างเคร่งครัด และให้คำนึงถึงปัญหาชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าคำนึงถึงแต่ตัวเลขทางเศรษฐกิจ ตลอดจนยึดมั่นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 67 เป็นสำคัญ"นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ ยังเสนอให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้ามามีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ในการแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 หรือร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ เห็นด้วยกับกระบวนการต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชันในทุกองค์กรในประเทศไทย โดยเฉพาะกรณี สร.รฟท.เรียกร้องให้ขับไล่นายยุทธนา ทัพเจริญ ออกจากตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. เพราะมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส ส่อไปในทางการทุจริตคอร์รัปชัน กรณีใช้อำนาจมิชอบให้เช่าที่ดินที่ตลาดซันเดย์ตามความเห็นของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และยังมีพฤติกรรมที่ไร้จริยธรรมในการนำบุคคลใกล้ชิดที่เคยถูกให้ออกจากงานให้กลับมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพย์สิน เป็นการใช้อำนาจที่มิชอบตามข้อบังคับของการรถไฟแห่งประเทศไทย
อีกทั้งยังใช้คำสั่งในการบริหารที่มิชอบในการสั่งหยุดรถไฟและทิ้งผู้โดยสารที่ อ.ละแม จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา และพยายามทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดในทางเสียหายต่อ สร.รฟท.เพื่อหวังจะทำลายความน่าเชื่อถือและทำการแปรรูปเอื้อผลประโยชน์ให้กับเอกชนที่เป็นพวกพ้องของรัฐบาล
"การหยุดงานเพราะหัวรถจักรมีระบบความปลอดภัยไม่สมบูรณ์และเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน และของการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นเป็นสิ่งที่มีเหตุผลอย่างชัดเจนในการรักษาผลประโยชน์ของประชาชน รัฐบาลจึงควรดำเนินการแก้ไขและยึดแนวทางในการเจรจากับสหภาพแรงงานรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหาในเรื่องความชำรุดของหัวรถจักรและความรับผิดพนักงานขับรถอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดผลประโยชน์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยและประชาชนเป็นสำคัญ" นายสุริยะใส กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ ยังทวงถามข้อเรียกร้องในแถลงการณ์ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเร่งรัดคดีบุกรุกและครอบครองที่ดินของ รฟท.ที่เขากระโดง ซึ่งรัฐบาลยังเพิกเฉยมาโดยตลอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเห็นแก่พวกพ้อง และไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาการทุจริตใน รฟท.ตามที่กล่าวอ้าง
ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า รฟท.เป็นองค์กรที่โชคร้ายเพราะมีนักการเมืองจ้องเข้าไปหาผลประโยชน์ โดยต้องการแปรรูป รฟท.และต้องการหาผลประโยชน์จากที่ดินที่ รฟท.มีอยู่ เช่น กรณีที่ดินของ รฟท.ที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่มีนักการเมืองเข้าไปครอบครอง แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉย และตนเองรู้สึกเสียใจกับรัฐบาลชุดนี้ที่ออกมาตำหนิ สร.รฟท. ทั้งๆ ที่เรื่องในการรถไฟฯ เป็นเรื่องที่นักการเมืองต้องการใช้คนในการรถไฟฯ หาผลประโยชน์