สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนคิดอย่างไรต่อจุดจบของปัญหาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และแนวทางการปฏิรูปฟื้นฟู รฟท. จากการสำรวจความเห็นประชาชน 17 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,209 ครัวเรือน ในวันที่ 29 ต.ค.52 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 90% ราบข่าวการหยุดเดินรถไฟของพนักงาน รฟท.ช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยมองว่า สาเหตุการหยุดเดินรถไฟคือ ความขัดแย้งภายในองค์กร 68.3% รองลงมามองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ของพนักงานการรถไฟ 53.9% มองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ของฝ่ายบริหาร 52.8% และ 46.1% มองว่าเป็นเพราะเห็นแก่ความปลอดภัยของประชาชน
โดยความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับ รฟท. ส่วนใหญ่ เห็นด้วยที่รัฐบาลจะปฏิรูปฟื้นฟูการรถไฟใหม่ทั้งระบบ เห็นด้วยที่รัฐบาลควรเพิ่มงบประมาณในการฟื้นฟู รฟท. เห็นด้วยกับการตั้งบริษัทบริหารกิจการด้านต่างๆ ของ รฟท. แต่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการหยุดเดินรถของพนักงาน รฟท.ช่วงผ่านมา
ส่วนสิ่งที่ประชาชนอยากให้ รฟท. ควรเร่งปฏิรูปฟื้นฟู เกือบ 98.9% ระบุเป็นเรื่องความปลอดภัย รองลงมาเป็นเรื่องการตรงต่อเวลา การปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กร การปรับปรุงหัวรถจักรให้ทันสมัย เร่งแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น เพิ่มจำนวนบุคลากร ควรเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหาร รฟท.
อย่างไรก็ตาม ประชาชนมีความเห็นใกล้เคียงกัน ที่ 49.7% เชื่อว่าจุดจบของปัญหาใน รฟท. คือ ปัญหาจะยังมีอยู่เหมือนเดิม เป็นแค่กระแส ไม่มีใครคิดแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ในขณะที่ 50.3% เชื่อว่าจะมีการปฏิรูปฟื้นฟูอย่างจริงจัง และที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนส่วนใหญ่ 69.4% ระบุประเทศญี่ปุ่น ควรเป็นประเทศต้นแบบที่อยากให้นำมาปฏิรูปฟื้นฟู รฟท. รองลงมาคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา จีน และกลุ่มประเทศในยุโรป
ส่วนกรณีความเห็นต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหา รฟท. เช่น กลุ่มการเมืองต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 71.2% ไม่เห็นด้วย เพราะ เป็นการทำให้ปัญหาบานปลายมากขึ้น ไม่อยากให้วุ่นวายไปกว่านี้ ควรเป็นเรื่องของคนภายในช่วยแก้ปัญหากัน และมองว่าการเคลื่อนไหวเหล่านั้นไม่ก่อเกิดประโยชน์ต่อการรถไฟอย่างแท้จริง เป็นต้น ในขณะที่ 28.8% เห็นด้วย เพราะจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น จะได้ช่วยกันไกล่เกลี่ย และร่วมกันตรวจสอบให้มีความโปร่งใส