นายจุลสิงห์ วสันต์สิงห์ อัยการสูงสุด กล่าวว่า พร้อมส่งฟ้องนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ(BBC) ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์มูลค่า 2.5 พันล้านบาทได้ทันทีหลังจากพนักงานสอบสวนส่งตัวให้แล้ว ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ระบุว่าเตรียมเดินหน้ายึดทรัพย์สินในขั้นต่อไป
"ผมได้ให้นโยบายไปแล้วว่าสามารถส่งฟ้องได้ทันที เพราะเป็นคดีที่เคยสั่งฟ้องไว้เมื่อปี 39 ไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีก" อัยการสูงสุด ระบุ
สำหรับคดีที่ทางการไทยยื่นกับทางการแคนาดาเพื่อขอให้มีการส่งตัวนายราเกซ เป็นคดีที่ BBC อนุมัติการปล่อยกู้ให้บริษัท ซิตี้ เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 1,657 ล้านบาทโดยทุจริต ซึ่งเป็นการอนุมัติปล่อยกู้ที่เกินอำนาจ และไม่มีการประเมินราคาหลักทรัพย์อย่างถูกต้อง ซึ่งขณะนี้คงต้องพิจารณาเฉพาะคดีดังกล่าวก่อน เพราะใกล้จะหมดอายุความในเดือน ก.ค.53
ส่วนคดีอื่นๆ ของนายราเกซ นั้นอัยการไทยจะประสานกับทางการแคนาดาต่อไป และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเพราะมีมูลฐานความผิดในลักษณะใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ดี เห็นว่าการดำเนินคดีนายราเกซ ควรจะทำไปตามขั้นตอนปกติ ไม่ควรเร่งรัดจนขาดความรอบคอบ และมั่นใจว่าจะปิดคดีได้อย่างแน่นอน นายจุลสิงห์ กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้เตรียมแผนการเดินทางไปรับตัวนายราเกซอย่างรัดกุม โดยประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศในการออกพาสปอร์ตเพื่อการส่งตัวข้ามแดน โดยกำหนดให้นายราเกซและคณะออกเดินทางจากประเทศแคนาดาทันทีหลังศาลฎีกาแคนาดามีคำสั่ง โดยคาดว่านายราเกซจะเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันนี้
นอกจากการดำเนินคดีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดยังได้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับนายราเกซ กับพวกในหมู่เกาะเกิร์นซีย์ มูลค่า 6.4 ล้านดอลลาร์, ในอังกฤษ มูลค่า 4 ล้านดอลลาร์ และในสวิตเซอร์แลนด์อีก 54 ล้านดอลลาร์ โดยทรัพย์สินที่ติดตามคืนกลับประเทศไทยได้แล้ว ได้แก่ ทรัพย์สินที่พนักงานอัยการอายัดไว้ในสวิตเซอร์แลนด์ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการนำทรัพย์สินกลับสู่ประเทศไทยต่อไป
นายจุลสิงห์ ชี้แจงว่าสาเหตุที่อัยการสูงสุดไม่ได้ออกมาแถลงข่าวก่อนหน้านี้ เป็นเพราะต้องการให้ได้ความชัดเจนจากศาลฎีกาแคนาดาก่อนว่าจะให้ส่งตัวนายราเกซ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ อีกทั้งได้รับการประสานจากอัยการแคนาดาว่าขอให้มีความชัดเจนก่อนที่อัยการไทยจะเปิดแถลงข่าว เพราะเกรงจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดดังเช่นในปี 49 ที่เตรียมจะส่งตัวนายราเกซ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย แต่เกิดกรณีรัฐประหารขึ้นมาก่อน เป็นต้น
นายจุลสิงห์ ยังกล่าวถึงกรณีการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยด้วยว่า โดยหลักการทั่วไปแล้วแม้ประเทศที่มีสนธิสัญญาจะต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อกัน แต่เป็นเอกสิทธิ์ของรัฐที่รับคำขอ ว่าจะส่งตัวให้หรือไม่ แต่หากไม่ส่งตัวก็จะต้องมีเหตุผลประกอบอันเหมาะสม ซึ่งกรณีนี้ไทยเคยมีเหตุไม่ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้ต่างประเทศเช่นกัน ทั้งนี้การพิจารณาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนยังมีหลักเรื่องรัฐต่างตอบแทนมาประกอบด้วย
ด้านนายชาญชัย บุญฤทธิ์ไชยศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกฎหมายและคดี ธปท.กล่าวว่า ธปท.จะประสานกับทางอัยการฯ เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์นายราเกซที่อยู่ในประเทศแคนาดาต่อไป รวมทั้งสืบหาการถือครองทรัพย์สินในนามของผู้อื่นหรือนอมินีด้วย และเตรียมส่งพยานบุคคลซึ่งเป็นอดีตพนักงานของธปท.ให้กับอัยการเพื่อดำเนินคดีกับนายราเกซในครั้งนี้
ทั้งนี้ ธปท.ได้ฟ้องคดีเกี่ยวกับ BBC ทั้งหมด 20 คดี มูลค่าความเสียหายราว 2 หมื่นล้านบาท