ทางการฟิลิปปินส์สั่งปิดโรงเรียน พร้อมทั้งลำเลียงปัจจัยบรรเทาทุกข์เพื่อให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบภัยทั่วเกาะลูซอน หลังพายุไต้ฝุ่นมีรีแนเคลื่อนตัวมายังพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ยอดชาวฟิลิปปินส์ที่เสียชีวิตจากพายุถล่มในปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1,100 ราย
สภาความร่วมมือด้านภัยพิบัติแห่งชาติเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่า โรงเรียนประถมและมัธยมหลายแห่งของเกาะลูซอนถูกสั่งปิด หลังพายุมีรีแนที่เคลื่อนตัวเข้าชายฝั่งด้วยความเร็วลมที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 60-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ณ เวลา 04:00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ พายุมีรีแนเคลื่อนตัวอยู่ทางตะวันออกของเมือง Casiguran บนเกาะลูซอนเป็นระยะทาง 547 กิโลเมตร โดยพายุดังกล่าวมีความเร็วลมสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถทวีกำลังแรงขึ้น 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากที่ได้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกของแถบตะวันตกเฉียงใต้ด้วยความเร็วลม 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่า พายุดังกล่าวจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในทางตะวันออกของกรุงมะนิลาหลังช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ ก่อนมุ่งหน้าลงสู่ทะเลจีนใต้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ สำนักงานป้องกันชายฝั่งของฟิลิปปินส์ได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกระจายกำลังให้ความช่วยเหลือทางชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเกาะลูซอนเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เผชิญกับเหตุพายุไซโคลนกว่า 10 ลูกในปีนี้ ขณะที่ประชาชนกว่า 121,000 รายยังคงอาศัยในศูนย์อพยพ หลังจากพายุไซโคลน 2 ลูกพัดถล่มเกาะลูซอนนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา